นักวิเคราะห์แสดงความกังวลว่า ความร่วมมือด้านการทหารรอบใหม่ระหว่างเกาหลีเหนือและรัสเซียในปี 2023 ที่ผ่านมาอาจเพิ่มภัยคุกคามให้แก่ความมั่นคงโลกในอีกหลายปีจากนี้
ระหว่างสงครามรัสเซียบุกยูเครนกำลังเดินหน้าเข้าสู่ปีที่ 2 แล้ว รัฐบาลมอสโกหันหน้าไปพึ่งเกาหลีเหนือเพื่อขอความช่วยเหลือด้านสรรพพาวุธต่าง ๆ แลกกับการที่รัสเซียจะช่วยเหลือด้านการพัฒนาอาวุธที่รัฐบาลเปียงยางต้องการ รวมถึงดาวเทียมสอดแนม ที่เกาหลีเหนือเพิ่งประกาศความสำเร็จในการปล่อยดาวเทียมสอดแนมดวงแรกสู่วงโคจรเมื่อ 28 พฤศจิกายนปีก่อน และข่าวกรองเกาหลีใต้เชื่อว่ารัฐบาลเปียงยางได้รับความช่วยเหลือจากรัสเซียในเรื่องนี้เช่นกัน
ความร่วมมือระหว่างเกาหลีเหนือและรัสเซียที่แน่นแฟ้นขึ้น ทำให้ประเทศในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก รวมถึงประเทศในยุโรป ทั้งอังกฤษ ฝรั่งเศส และยูเครน ได้แสดงความกังวลถึงการปล่อยดาวเทียมสอดแนมของเกาหลีเหนือว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคง
อย่างไรก็ตาม จีนไม่ได้ออกมาประณามการปล่อยดาวเทียมของเกาหลีเหนือหรือดีลอาวุธระหว่างรัสเซียและเกาหลีเหนือแต่อย่างใด
โรเบิร์ต แรปสัน อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงโซล เมื่อปี 2018-2021 กล่าวกับวีโอเอว่า ปักกิ่งไม่ได้รู้สึกถูกคุกคามจากพัฒนาการเหล่านี้ และมองว่ามีประโยชน์ต่อจีนในการวางบทบาทและนโยบายต่อสหรัฐฯ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น
เคน เกาส์ นักวิเคราะห์จาก Center for Naval Analyses กล่าวว่ารัสเซียยินดีที่จะช่วยเกาหลีเหนือในการพัฒนาขีปนาวุธวิถีโค้งพิสัยไกล ฮวาซอง-18 ขณะที่แกรี เซมอร์ อดีตผู้ประสานงานทำเนียบขาวด้านการควบคุมอาวุธและอาวุธทำลายล้างสูง ในคณะทำงานของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา กล่าวว่า อาวุธอื่น ๆ ที่กรุงเปียงยางต้องการอย่างมาก คือ เครื่องบินรบและระบบป้องกันทางอากาศที่ทันสมัย “เพื่อป้องกันตนเองจากความได้เปรียบทางอากาศ” ของสหรัฐ และเกาหลีใต้
ด้านเอแวนส์ เรเวียร์ อดีตรักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ด้านกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก กล่าวว่าข้อตกลงด้านอาวุธระหว่างรัฐบาลมอสโกและเปียงยางซึ่งฝ่าฝืนมาตรการลงโทษระหว่างประเทศเป็นประเด็นที่น่ากังวลอย่างยิ่ง และว่า “คำถามเดียวก็คือการละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีความสำคัญเพียงใดและร้ายแรงแค่ไหน”
- ที่มา: วีโอเอ
กระดานความเห็น