สื่อทางการเกาหลีเหนือกล่าวโทษองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) ว่าเป็นผู้จุดชนวนวิกฤตสงครามยูเครน-รัสเซีย และระบุว่า การที่สหรัฐฯ เข้ามายุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งนี้เป็น “เส้นทางสู่การทำลายล้างตนเอง” ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์
สำนักข่าว KCNA ของเกาหลีเหนือเผยแพร่บทวิจารณ์ชิ้นใหม่ออกมาในวันพฤหัสบดี หรือวันก่อนวันครบรอบ 1 ปีของสงครามในยูเครน ซึ่งในบทความนี้ คิม ยู-ชุล นักวิจารณ์ประเด็นต่างประเทศ กล่าวว่า ความขัดแย้งในยูเครนนั้น “ผลผลิตอันหลีกเลี่ยงไม่ได้จากการขู่กรรโชกและความเป็นมหาอำนาจ” ของสหรัฐฯ และเหล่าพันธมิตร
นับตั้งแต่มอสโกเริ่มส่งกองทัพเข้ารุกรานยูเครน เกาหลีเหนือเดินหน้าสร้างความใกล้ชิดกับรัสเซียอย่างต่อเนื่อง ด้วยการแสดงจุดยืนสนับสนุนผ่านแถลงการณ์ต่าง ๆ รวมทั้ง ขณะเข้าร่วมการประชุมสหประชาชาติด้วย
ในบทวิจารณ์ล่าสุดนี้ คิม ยู-ชุล ระบุด้วยว่า “หากยูเครนไม่ได้ตาบอดตาใสเข้าร่วมนโยบายเผชิญหน้าและต่อต้านรัสเซียของสหรัฐฯ ... ถ้าหาก (ยูเครน) เลิกสนปีศาจร้ายโสมมอย่างสหรัฐฯ และหันมาส่งเสริมการสมานฉันท์และความสามัคคีกับเพื่อนบ้านของตน สถานการณ์ก็คงไม่มาถึงจุดที่เลวร้ายดังที่เป็นอยู่ในเวลานี้”
คิม ยังกล่าวด้วยว่า “สถานการณ์ในปัจจุบันในยูเครนนั้นพิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่า ไม่มีทางมีสันติภาพบนโลกนี้ ไม่ว่าเมื่อใด ถ้าหากนโยบายการใช้กำลัง การใช้อำนาจบาตรใหญ่ และการรุกรานอย่างละโมบ ของสหรัฐฯ ไม่ยุติลง”
ทั้งนี้ เครมลินกล่าวว่า ตนมองนาโต้ ซึ่งกำลังจะรับสวีเดนและฟินแลนด์เข้าร่วมกลุ่ม เป็นภัยคุกคามต่อการดำรงอยู่ของรัสเซีย
ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ กล่าวหาเกาหลีเหนือว่า นำส่งอาวุธต่าง ๆ ให้รัสเซีย แต่ทั้งเปียงยางและมอสโกต่างปฏิเสธคำกล่าวหานี้มาโดยตลอด
- ที่มา: รอยเตอร์