เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกยกระดับการสนับสนุนทางทหารให้กับยูเครน เพื่อให้รอดพ้นจากสถานการณ์ความขัดแย้งและก้าวผ่านมาเป็น “ประเทศหนึ่งในยุโรปที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มีอิสรภาพและอธิปไตย”
เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต้ กล่าวต่อที่ประชุมสมัชชารัฐสภานาโต้ ที่กรุงมาดริด ในวันจันทร์ว่า “เราต้องระลึกได้แล้วว่า สงครามนี้น่าที่จะไปจบลงที่โต๊ะเจรจาในที่สุด แต่เราก็รู้ว่า ผลลัพธ์ของการเจรจาเหล่านั้นจะขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งในสนามรบเท่านั้น”
สโตลเทนเบิร์ก กล่าวด้วยว่า ประเทศพันธมิตรนั้นต้องลงทุนในด้านเงินเพื่อสนับสนุนการทหารของยูเครนให้มากขึ้น และว่า “เราต้องจำไว้ว่า ราคาที่เราจ่ายไปนั้นวัดกันที่จำนวนเงิน และราคาที่ยูเครนจ่ายนั้นวัดกันด้วยจำนวนชีวิต เลือด ทุก ๆ วัน ... มันจึงเป็นภาระผูกพันของเราที่จะต้องสนับสนุนพวกเขา
เลขาธิการนาโต้ยังกล่าวยกย่องกองทัพยูเครนที่สามารถรุกกลับจนมีชัยเหนือกองกำลังของกรุงมอสโกได้ แต่เตือนไม่ให้ประเมินสรรพกำลังทางทหารของสหพันธรัฐรัสเซียต่ำเกินไปด้วย
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี เข้าร่วมการประชุมนี้ผ่านระบบวิดีโอคอลล์ และยืนยันว่า การสนับสนุนทางทหารและทางการเงินของนาโต้มีความสำคัญอย่างมากต่อยูเครนและเรียกร้องให้กลุ่มพันธมิตรทางทหารนี้ช่วยผลักดันให้ยูเครนเข้าไปสมาชิกนาโต้และสหภาพยุโรปด้วย
นอกจากนั้น ปธน.ยูเครนยังเรียกร้องให้สมาชิกกลุ่มนาโต้รับรองการปกป้องคุ้มครองจาก “การก่อวินาศกรรมของรัสเซีย” ที่พื้นที่โรงงานนิวเคลียร์ต่าง ๆ ด้วย
ทั้งนี้ ในวันจันทร์ ทั้งรัสเซียและยูเครนยังคงออกมาโทษอีกฝ่ายว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดกว่าสิบครั้งในพื้นที่ใกล้ ๆ กับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซห์เชีย ซึ่งตกอยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซียนับตั้งแต่กองทัพมอสโกรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า บริษัท ยูเครเนอร์โก (Ukrenergo) ที่รัฐบาลยูเครนเป็นเจ้าของและทำหน้าที่ดูแลเครือข่ายพลังงานของประเทศรายงานว่า ชาวยูเครนราว 40% กำลังประสบปัญหาด้านพลังงาน หลังศูนย์กลางการผลิตไฟฟ้าหลักอย่างน้อย 15 แห่งของประเทศได้รับความเสียหายจากการโจมตี
เอพี ยังอ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ยูเครนและรายงานในวันจันทร์ว่า ทางการได้เริ่มอพยพพลเรือนออกจากเมืองเคอร์ซอนและเมืองมีโคลาอิฟที่อยู่ข้างเคียง หลังเกิดความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานในบริเวณดังกล่าวอย่างหนักเสียจนคาดกันว่า จะทำให้ประชาชนประสบทุกข์หนักกว่าที่เป็นอยู่ในช่วงฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง
- ข้อมูลบางส่วนมาจาก เอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์