Maris College Institute of Public Opinion ที่รัฐนิวยอร์กของสหรัฐฯ เปิดเผยรายชื่อคำที่คนรู้สึกว่าสร้างความรำคาญที่สุดแห่งปี ซึ่งปรากฏว่ามีทั้งคำจากปีก่อนๆ และคำที่เพิ่งติดอันดับปีนี้
โดยในปีนี้คำว่า ‘whatever’ เป็นคำที่น่ารำคาญอันดับหนึ่ง ตามความเห็นของผู้ตอบแบบสอบถาม สูงถึงร้อยละ 33 และเป็นปีที่ 9 ติดต่อกันแล้วที่ ‘whatever’ หรือ ‘ก็แล้วแต่’ ติดอันดับหนึ่ง
‘whatever’ ถูกใช้แพร่หลายขึ้น หลังจากคำนี้ถูกใช้ในฉากหนึ่งของภาพยนตร์วัยรุ่นดังแห่งยุค ‘90s เรื่อง Clueless เมื่อกว่า 20 ปีก่อน
อย่างไรก็ตาม คำที่น่ารำคาญอันดับสองเป็นคำใหม่ในทำเนียบ The Most Annoying Words คือคำว่า ‘fake news’ ได้รับการลงความเห็นร้อยละ 23 เข้ากับกระแสการโจมตีสื่อด้วยการเรียกข่าวสารที่ไม่ส่งผลดีต่อผู้ตกเป็นข่าวว่าเป็น ‘ข่าวเท็จ’ นั่นเอง
กระแสดังกล่าวมีผู้ปลุกความนิยมที่ถูกพูดถึงเสมอๆ คือ ประธานาธิบดี ทรัมป์ของสหรัฐฯ หลังจากที่เรียกสื่ออเมริกันหลักหลายรายว่าเป็น สื่อ ‘fake news’
นอกจากนั้น คำที่คนเห็นว่าเป็นคำที่น่ารำคาญมากยังมี ‘No offense but…’ หรือ ‘ก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ แต่......’ กับเสียงโหวตร้อยละ 20
และ ‘literally’ ซึ่งเป็นคำขยายที่มาก่อนหน้าคำวิเศษณ์ เช่น “I am literally hunger.” แปลว่า “ฉันกำลังหิวมากๆ”
‘literally’ ได้รับการลงคะแนนจากผู้ตอบแบบสอบถามให้เป็นคำที่น่ารำคาญที่สุดร้อยละ 11 นำหน้า ‘You know what I mean’ หรือ ‘คุณรู้ใช่ไหมว่าฉันหมายความว่าอะไร’ ที่มีคนลงความเห็นให้ร้อยละ 10
Maris College Institute of Public Opinion กล่าวว่า อายุของผู้ตอบแบบสอบถามน่าจะมีส่วนส่งผลถึงทัศนะต่อคำที่น่ารำคาญ
ร้อยละ 40 ของผู้ตอบแบบสอบถามที่อายุ 45 ปีขึ้นไปยกให้คำว่า ‘whatever’ เป็นคำที่น่ารำคาญที่สุด แต่ถ้าเป็นกลุ่มอายุต่ำว่า 45 ปี ร้อยละ 26 บอกว่า ‘No offense but…’ น่ารำคาญที่สุด
