ในโลกในสังคมที่ผู้คนมีความคิดแตกต่างและอาจมีการแบ่งขั้วทางการเมืองอย่างในปัจจุบัน สถานการณ์หนึ่งซึ่งหลายคนอาจพบอยู่คือ การที่คนซึ่งเรามีความสัมพันธ์ด้วยมีความเห็นทางการเมืองต่างจากเรา ซึ่งอาจทำให้ยากที่จะสนทนาแลกเปลี่ยนความเห็นกับคนเหล่านี้
ปัญหาดังกล่าวจะยิ่งซับซ้อนขึ้นหากคน ๆ นั้นเป็นผู้ที่เรามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดอยู่ เช่นเป็นคนรัก เป็นเพื่อนสนิทหรือเป็นคนในครอบครัว และคำถามก็คือเราควรทำตัวอย่างไร
โดยทั่วไปแล้ว หลายคนคงอยากแสดงความเห็นทางการเมืองของตัวเอง แต่เราก็ต้องการมีชีวิตอย่างสุขสันติกับคนที่เรารักหรือให้ความสำคัญเช่นกัน ด.ร. Jeanne Safer นักจิตวิทยาผู้เขียนหนังสือชื่อ "I love you, buy I hate your politics: how to protect your intimate relationships in a poisonous partisan world" เป็นผู้หนึ่งซึ่งมีประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะตัวเธอนั้นเป็นสมาชิกของพรรคเดโมแครต ขณะที่สามีเป็นชาวรีพับลิกัน
คำแนะนำหนึ่งจากการให้สัมภาษณ์กับ Elizabeth Bernstein นักเขียนคอลัมน์ของ Wall Street Journal ก็คือ แม้จะเป็นเรื่องยากขึ้นที่จะสนทนากับผู้มีความเห็นทางการเมืองต่างจากเรา แต่เราก็ไม่ควรทำให้ตัวเองต้องโดดเดี่ยวหรือมีความสัมพันธ์กับผู้คนน้อยลง
และว่า เหตุผลสำคัญที่ทำให้เราขุ่นเคืองใจเมื่อคนที่เรารักเห็นต่างทางการเมืองก็เพราะเรามักคาดหวังว่าคนที่เราใกล้ชิดด้วยนั้นจะเหมือนเราในทุกด้าน แต่แท้จริงแล้วเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับประเด็นทางการเมืองเลย เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับจิตวิทยามากกว่าที่มาจากลักษณะการมองโลกของแต่ละคน
ดังนั้น คำแนะนำข้อแรกก็คือ ถ้าเราสามารถเข้าใจและยอมรับว่าแต่ละคนย่อมมีความคิดแตกต่างกัน เรื่องนี้ก็คงจะช่วยได้เป็นอันดับแรก
คำถามต่อไปก็คือ เราควรหลีกเลี่ยงการพูดคุยเรื่องการเมืองกับคนที่เห็นต่างหรือไม่ คำตอบก็คือ หากการสนทนาแลกเปลี่ยนนั้นจะนำไปสู่การทะเลาะโต้เถียงกันก็ไม่ควรทำ แต่ถ้าทั้งคู่คิดว่าสามารถทำได้อย่างสุภาพและควบคุมอารมณ์ได้โดยไม่มีการขึ้นเสียงเราก็อาจได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ โดยเฉพาะจากการพูดคุยกับคนที่มีทัศนะแตกต่างทางการเมือง รวมทั้งควรเปิดใจรับฟังมากกว่าที่จะแสดงออกหรือตอบโต้กลับด้วย
เพราะในทุกความสัมพันธ์นั้น การทะเลาะทุ่มเถียงทางการเมืองจะเป็นผลให้ทั้งคู่ตกเป็นฝ่ายแพ้ เนื่องจากคงไม่มีใครยอมเปลี่ยนความคิดหลังการทะเลาะกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเราพยายามจะบอกว่านี่คือสิ่งที่คุณเชื่อหรือคิดอย่างผิด ๆ มาตลอด ดังนั้น วิธีที่ดีกว่าคือการยอมรับว่ายากที่จะเปลี่ยนใจบางคน และยอมรับว่าเป็นสิทธิที่จะมองเรื่องนี้แตกต่างกัน
แต่ในกรณีที่คนสำคัญบางคนอาจจะอยากเริ่มการทะเลาะทางการเมืองนั้น คุน Jeanne Safer นักจิตวิทยาผู้เขียนหนังสือเรื่องนี้บอกว่า คำตอบที่เหมาะสมคืออย่าดีกว่า เพราะว่าผม ดิฉัน หรือเรารักคุณ และนี่คงไม่ใช่เรื่องที่จะคุยกันแล้วได้ประโยชน์ ดังนั้น เราควรใช้เวลาดี ๆ ทำอย่างอื่นที่สร้างสรรค์มากกว่า
และเมื่อความเห็นต่างทางการเมืองเป็นส่วนหนึ่งของความสัมพันธ์ บางครั้งเราอาจรู้สึกขุ่นเคืองหรือคับข้องใจ แต่คุณ Jeanne Safer ก็แนะว่าเราควรมองว่ามีอะไรที่เราแคร์เกี่ยวกับคน ๆ นี้ อะไรทำให้คนดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเรา และอะไรที่มีร่วมกันอยู่ เพราะในชีวิตจริงนั้นมีอะไรอีกมากมายที่สำคัญกว่าความเห็นทางการเมือง เช่น คน ๆ นั้นปฏิบัติต่อเราอย่างไรทั้งในเวลาที่เราทุกข์และสุข
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อถึงเวลาที่มีปัญหาต้องตัดสินใจแก้ไขร่วมกันแล้ว ทัศนะทางการเมืองที่ไม่เหมือนกันนี้ก็คงจะเป็นปัจจัยท้าย ๆ ของการตัดสินใจอย่างแน่นอน
ท้ายที่สุด ด.ร. Jeanne Safer บอกว่า ข้อดีของการมีคนที่เห็นต่างทางการเมืองอยู่ในชีวิตคือการช่วยขยายโลกทัศน์ของเราให้กว้างออกไป เพราะเราจะสามารถเรียนรู้อะไรบางอย่างเพิ่มเติมได้เสมอถ้าเราเปิดใจฟัง
และเรื่องนี้จะช่วยให้เรารู้ว่าในชีวิตจริงนั้นโลกย่อมกว้างมากกว่าฟองสบู่ และเฉดสีที่มีอยู่ในชีวิตจริงนั้นมีมากกว่าสีขาวกับสีดำ!
