แพทย์ในหลายประเทศกำลังศึกษาวิธีสร้างแอนติบอดี หรือ ภูมิต้านทานโควิด-19 ขึ้นในห้องทดลอง ซึ่งหากประสบความสำเร็จ นอกจากจะสามารถนำมาใช้รักษาโควิด-19 แล้ว ยังอาจนำมาใช้ป้องกันการติดเชื้อสำหรับบุคลากรทางการแทพย์ที่ทำงานต่อสู้กับโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้ด้วย
ที่ผ่านมา การรักษาด้วยวิธีสร้างสารภูมิต้านทาน แบบที่เรียกว่า monoclonal antibody therapy นี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นเครื่องมือที่ทรงประสิทธิภาพในการต่อสู้กับอาการเจ็บป่วยจากมะเร็งและโรคไขข้ออักเสบเรื้อรัง นอกจากนี้กำลังมีพิจารณาโดยองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ เพื่อนำมาใช้ในการรักษาโรคอีโบล่าด้วย
ปัจจุบัน มีบริษัทยาอย่างน้อย 6 แห่งที่กำลังจะทำการทดสอบการรักษาโควิด-19 ด้วยสารแอนติบอดี โดย 2 บริษัทเริ่มทำการทดลองกับมนุษย์แล้ว ขณะที่อีก 4 บริษัทจะเริ่มการทดลองในช่วงฤดูร้อนปีนี้
นักวิจัยระบุว่า การสร้างสารภูมิต้านทานมีข้อดีกว่าการใช้ยาหลายอย่าง และยังใช้เวลาน้อยกว่าในการพัฒนา คือราวสามเดือน ตั้งแต่เก็บตัวอย่างเลือดไปจนถึงขั้นสุดท้ายของการทดลองกับมนุษย์ นอกจากนี้การรักษาด้วยแอนติบอดียังมีความปลอดภัยกว่าการให้ยาด้วย
แอนติบอดี หรือ สารภูมิต้านทานส่วนใหญ่ได้มาจากผู้ที่ฟื้นจากโรคโควิด-19 ซึ่งในเลือดของคนเหล่านั้นยังคงมีเชื้อโคโรนาไวรัสและสารแอนติบอดีอยู่ปริมาณมาก โดยแพทย์จะใช้วิธีทดสอบโดยการนำพลาสมาจากผู้ที่หายจากโรคแล้วไปใช้ในการรักษาผู้ป่วยรายใหม่
แต่การเก็บสะสมพลาสมาจำนวนมากจากผู้ที่หายป่วยแล้วนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากนี้ยังต้องมีการตรวจสอบหลายขั้นตอนว่าพลาสมานั้นจะไม่มีเชื้อโรคอื่น ๆ ปะปนมาด้วย