นาย กลิน เดวี่ส์ เอกอัคราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย เปิดเผยถึงแผนงานของสถานทูตสหรัฐฯ ที่เตรียมจัดนิทรรศการสะท้อนความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ผ่านของขวัญที่กษัตริย์ไทยตั้งแต่ครั้งสมัยที่ไทยยังเป็นสยามประเทศ ทรงแลกเปลี่ยนกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งเริ่มต้นมายาวนาน และจะครบ 200 ปีในปีหน้า
ทูตกลิน เดวี่ส์ ให้สัมภาษณ์ระหว่างเข้าร่วมงานเลี้ยงของสมาคม US-ASEAN Business Council เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้วว่า ปีหน้าจะครบ 200 ปีที่สหรัฐฯ และไทย เริ่มการติดต่อสัมพันธ์กัน
ในครั้งนั้นเป็นการเจริญสัมพันธไมตรีผ่านการค้า ระหว่างรัชกาลที่สองของไทยและประธานาธิบดีเจมส์ มอนโร ของสหรัฐฯ
เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย บอกว่า เมื่อสองร้อยปีก่อนสหรัฐฯ ยังคงเป็นประเทศใหม่ และเป็นประเทศเล็กๆ ขณะที่ไทยเป็นประเทศที่สำคัญ ที่เป็นศูนย์กลางแห่งหนึ่งของเอเชีย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
การนำของขวัญที่ทั้งสองประเทศแลกเปลี่ยนกันในตั้งแต่ครั้งนั้นมาจนถึงยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ที่ทรงครองราชย์ยาวนาน ในระยะเวลาที่สหรัฐฯเปลี่ยนประธานาธิบดีมาถึง 12 คน จึงน่าจะเป็นเครื่องช่วยสะท้อนความสัมพันธ์ที่มีมายาวนานของทั้งสองประเทศ
ขณะนี้คณะทำงานของทั้งสองประเทศได้ประสานงานกันต่อเนื่อง โดยที่นายกลิน เดวี่ส์ ได้พบกับพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เมื่อไม่นานนี้
ท้ายสุดเขากล่าวว่า การเข้าถึงความสนใจของคนไทยด้วยงานการทูตผ่านกิจกรรมภาคประชาชน ถือเป็นบทบาทหนึ่งที่ฝ่ายอเมริกันทำได้ เพื่อความร่วมมือในหลายระดับ
โดยที่ทั้งสองประเทศทราบดีว่า ไทยและสหรัฐฯ แม้จะมีความแตกต่างในบางเรื่อง แต่นั่นไม่ได้ขัดขวางการประสานงานอย่างที่เห็นจากการเตรียมการจัดนิทรรศการครั้งนี้
ทูตกลิน เดวี่ส์ กล่าวว่า นิทรรศการดังกล่าวจะเริ่มต้นในช่วงต้นปี พ.ศ. 2561
(สัมภาษณ์และเรียบเรียงโดย รัตพล อ่อนสนิท)