สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน คำแถลงของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนี ณ กรุงเบอร์ลิน ในวันพุธที่ 28 ตุลาคม ที่ระบุว่า รัฐบาลไทยให้การรับรองกับรัฐบาลเยอรมนีอีกครั้งว่า พระมหากษัตริย์ไทยมิได้ทรงงานใด ๆ ที่เกี่ยวกับกิจการของรัฐบาลไทยขณะทรงประทับอยู่ในเยอรมนี
โฆษกหญิงของกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนีชี้แจงว่า รัฐบาลเยอรมันเชื่อและคาดหวังว่าไม่มีการตัดสินใจใด ๆ จากเยอรมนีที่เป็นการละเมิดกฎหมายของเยอรมนี กฎหมายระหว่างประเทศ หรือกฎข้อบังคับด้านสิทธิมนุษยชน
ก่อนหน้านี้เมื่อวันจันทร์ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานคำแถลง ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนี ไฮโก มาส (Heiko Maas) ที่ระบุว่ารัฐบาลเยอรมนีกำลังติดตามพระจริยวัตรของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ระหว่างประทับในแคว้นบาวาเรีย เยอรมนี อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่การประท้วงในประเทศไทยยังคงดำเนินต่อไป
ที่ผ่านมารัฐบาลเยอรมนีได้ระบุไว้ว่า เป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้หากพระมหากษัตริย์ไทยทรงงานทางการเมืองจากเยอรมนี
รายงานดังกล่าวมีขึ้นในช่วงเดียวกับที่ผู้ชุมนุมประท้วงในกรุงเทพฯ เดินขบวนไปยังสถานทูตเยอรมนีประจำประเทศไทยในวันจันทร์ เพื่อยื่นคำร้องต่อรัฐบาลกรุงเบอร์ลินให้เริ่มกระบวนการตรวจสอบว่าพระมหากษัตริย์ไทยใช้พระราชอำนาจขณะทรงประทับอยู่ในเยอรมนีหรือไม่
ขณะเดียวกัน สำนักข่าวอัลจาซีรา รายงานในวันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม โดยอ้างแหล่งข่าวในรัฐสภาเยอรมนีที่กล่าวกับรอยเตอร์ว่า จากการประชุมร่วมกับคณะกรรมาธิการด้านกิจการต่างประเทศของรัฐสภาเยอรมนี เชื่อว่าพระมหากษัตริย์ไทยทรงได้รับความยินยอมให้ตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ บ้างเป็นครั้งคราวขณะทรงประทับในเยอรมนี ตราบเท่าที่มิได้ทรงงานทางการเมืองอย่างต่อเนื่องขณะประทับอยู่ที่นั่น
และเมื่อถูกถามถึงสถานะวีซ่าของพระมหากษัตริย์ไทยในเยอรมนี เจ้าหน้าที่รัฐบาลเยอรมนีกล่าวกับคณะกรรมาธิการชุดดังกล่าวว่า พระมหากษัตริย์ไทยทรงได้รับวีซ่าให้พำนักในเยอรมนีได้เป็นเวลาหลายปีในสถานะบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล และยังทรงได้รับสิทธิ์ปกป้องทางการทูตในฐานะประมุขของประเทศด้วย
