ลิ้งค์เชื่อมต่อ

รัฐมนตรีกลุ่ม G-7 หารือประเด็นวัคซีนต้านโควิด-การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ


G-7 foreign ministers convene in London for the first face-to-face meeting in two years, May 4, 2021. (Stefan Rousseau/Pool via Reuters)
G-7 foreign ministers convene in London for the first face-to-face meeting in two years, May 4, 2021. (Stefan Rousseau/Pool via Reuters)

เมื่อวันพุธ รัฐมนตรีต่างประเทศของผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนํา 7 ประเทศ (G-7) ต่างเน้นย้ำถึงความสำคัญของประเด็นผลประโยชน์ระดับโลก เช่น วัคซีนต้านโรคโควิด-19 การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และการศึกษาของเด็กผู้หญิง ในการประชุม G-7 วันสุดท้ายที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และนาเลดิ แพนดอร์ รัฐมนตรีต่างประเทศแอฟริกาใต้ ต่างเน้นถึงความสำคัญของการขยายการผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 ระดับโลก และความร่วมมือด้านสภาพภูมิอากาศ

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จากแอฟริกาใต้ ออสเตรเลีย อินเดีย เกาหลีใต้ และบรูไน ร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศและการพัฒนาของกลุ่ม G-7 ในฐานะแขกรับเชิญ

ทีมผู้แทนจากอินเดียต้องกักตัวเองออกมาหลังถูกตรวจพบเชื้อโคโรนาไวรัส อย่างไรก็ตาม เน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า ทีมผู้แทนสหรัฐฯ ไม่มีความเสี่ยงติดเชื้อไวรัส เนื่องจากปฏิบัติตามกฎรักษาความปลอดภัยทางสุขภาพด้วยการใส่หน้ากาก รักษาระยะห่างทางสังคม และตรวจเชื้อทุกวัน

รมต. บลิงเคน ยังหารือกับโมเตกิ โตชิมิตสุ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น และชุง อุย ยอง รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลี ถึงประเด็นเกาหลีเหนือ พร้อมเน้นย้ำความร่วมมือระหว่างทั้งสามประเทศต่อความกังวลถึงโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ

รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยังหารือกับบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ โดยโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรีอังกฤษระบุว่า ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่า การแจกจ่ายวัคซีนสำคัญต่อการยับยั้งการระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัส และกลุ่ม G-7 ต้องสนับสนุนด้วยการเพิ่มความสามารถในการผลิตวัคซีนในระดับระหว่างประเทศ

ในการประชุมกลุ่ม G-7เมื่อวันอังคาร เจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า เหล่ารัฐมนตรีต่างเห็นพ้องว่า จีนควรเป็นสมาชิกภาคีระหว่างประเทศ โดยจีนต้องทำตามกฎระหว่างประเทศด้วย

เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวยังระบุด้วยว่า บรรดารัฐมนตรีกังวลถึงสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในจีน และพฤติกรรม “คุกคามและก้าวร้าว” ในทะเลจีนใต้และบริเวณโดยรอบ

การประชุมรัฐมนตรี G-7 ครั้งนี้ เป็นการปูพื้นสำหรับการประชุมสุดยอด G-7 ในเดือนหน้า โดยหลังการประชุมนี้ รมต. บลิงเคน มีกำหนดการเดินทางไปยังยูเครนเพื่อหารือกับประธานาธิบดีโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน โดยโฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า รมต. บลิงเคนจะยืนยันการสนับสนุนของสหรัฐฯ ต่ออธิปไตยและบูรณภาพทางชายแดนของยูเครน ในขณะที่ยูเครนเผชิญการคุกคามจากรัสเซีย

XS
SM
MD
LG