องค์การอาหารและการเกษตรสหประชาชาติหรือ FAO คาดการณ์ว่า ยอดการนำเข้าอาหารของบรรดาประเทศยากจนที่สุดในโลกจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยราว 11% ในปีนี้ โดยเฉพาะในประเทศที่รายได้ต่ำและขาดดุลด้านอาหารนั้น มีแนวโน้มนำเข้าอาหารเพิ่มขึ้นถึง 20% ส่งผลให้มูลค่าการนำเข้าอาหารทั่วโลกในปีนี้อาจสูงกว่าหนึ่งล้านล้านดอลล่าร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์ด้านอาหารที่ส่งผลให้ราคาอาหารเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อ 2 ปีที่แล้ว โดยราคาพืชผลการเกษตรที่ใช้เป็นอาหารเกือบทุกชนิดเพิ่มสูงขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
คุณ Abdolreza Abbassian นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของ FAO ระบุว่าราคาอาหารจำเป็นบางประเภทสูงขึ้นเกือบถึงระดับเดียวกับเมื่อปี ค.ศ 2008 ซึ่งเป็นปีที่เกิดวิกฤตการณ์ด้านอาหาร ด้วยเหตุนี้รายงานของ FAO จึงเตือนว่าประชาคมโลกควรเตรียมรับมือกับภาวะขาดแคลนอาหารในช่วงปีหน้า
คุณ Abbassian ชี้ว่า ปัจจุบันราคาอาหารโลกเพิ่มขึ้นจากระดับเมื่อปีที่แล้วประมาณ 40-60% ซึ่งส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อบรรดาประเทศยากจนที่มีจำนวนมากกว่า 80 ประเทศทั่วโลก นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของ FAO ผู้นี้กล่าวว่า ในจำนวน 80 ประเทศที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มประเทศรายได้ต่ำและขาดดุลด้านอาหารนั้น มีกลุ่มประเทศยากจนที่สุดอย่างน้อย 30 ประเทศซึ่งต้องแบกรับภาระมหาศาลในการซื้ออาหารจากตลาดโลกในราคาที่สูงมากเช่นนี้
ในขณะเดียวกัน องค์การอาหารและการเกษตรสหประชาชาติคาดการณ์ใหม่ว่า ผลผลิตเมล็ดธัญพืชทั่วโลกปีนี้จะลดลงราว 2% อันเป็นผลมาจากสภาพภูมิอากาศไม่ดี และคาดว่าปริมาณเมล็ดธัญพืชสำรองเกือบทุกชนิดยกเว้นข้าวจะลดลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน FAO ยังแนะนำด้วยว่าควรมีการผลิตข้าวโพด ข้าวสาลีและถั่วเหลืองเพิ่มขึ้นอย่างมากเพื่อรองรับความต้องการที่กำลังเพิ่มขึ้นทั่วโลกด้วย