สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า โรคอหิวาต์แอฟริกาในหมูกลับมาระบาดในเอเชียอีกครั้ง โดยก่อนหน้านี้ไวรัสโรคดังกล่าวคร่าชีวิตหมูในเอเชียหลายสิบล้านตัว และทำให้เกิดการขาดแคลนเนื้อหมูอย่างหนัก
มีการระบาดของไวรัสระลอกใหม่ในจีนและเวียดนามในปีนี้ และเริ่มมีการระบาดในมาเลเซียด้วยเช่นกัน แม้การระบาดครั้งนี้จะมีลักษณะกระจัดกระจายเป็นหย่อมๆ แต่รัฐบาลประเทศต่าง ๆ ก็จับตามองถึงสถานการณ์ครั้งนี้แล้วว่า ไวรัสชนิดนี้ยังคงอยู่และอาจส่งผลกระทบอย่างหนักหากไม่มีการควบคุม
ไวรัสโรคอหิวาต์แอฟริกาในหมูสามารถคร่าชีวิตหมูได้ แต่ยังไม่พบว่าไวรัสดังกล่าวมีอันตรายต่อมนุษย์อย่างไร และเนื่องจากยังไม่มีวัคซีนป้องกันไวรัสชนิดนี้ ทางการของประเทศต่าง ๆ จึงควบคุมโรคด้วยการใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยทางชีวภาพอย่างเคร่งครัด รวมถึงการแยกสัตว์ที่ป่วยออกจากฝูง
สถานการณ์การระบาดของไวรัสในประเทศต่าง ๆ
จีน
จีนเป็นแหล่งปศุสัตว์หมูกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนหมูทั่วโลก โดยจีนได้รับผลกระทบจากไวรัสโรคอหิวาต์แอฟริกาในหมูมากที่สุดนับตั้งแต่มีรายงานถึงการระบาดครั้งแรกเมื่อปีค.ศ. 2018 โดยพบการระบาดในมณฑลต่าง ๆ เช่น เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ เหอเป่ย์ เหอหนาน ยูนนาน และเสฉวน รวมถึงในฟาร์มแห่งหนึ่งในฮ่องกง
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างกระทรวงเกษตรของจีนเมื่อวันอังคารว่า พบไวรัสในรถบรรทุกขนหมูจำนวน 10 ตัวในมณฑลเสฉวน โดยมีหมูสองตัวที่ตายแล้ว ทางการคาดว่า การลักลอบขนหมูเป็นสาเหตุของการระบาดของไวรัสครั้งนี้
การระบาดรอบล่าสุดนี้พบการระบาดของไวรัสกลายพันธุ์ที่ทำให้เกิดโรคในหมูได้น้อยกว่า แต่ก็ตรวจพบได้ยากกว่าเช่นกัน ทำให้มีการตั้งคำถามว่า รัฐบาลจีนจะสามารถสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ในฝูงหมูได้ทันภายในกลางปีนี้หรือไม่
ผู้ค้าทั่วโลกต่างจับตามองความคืบหน้าที่จีนจะกลับมาเพิ่มจำนวนหมูอีกครั้ง เนื่องจากจำนวนหมูในจีนจะส่งผลต่อการนำเข้าธัญพืชที่ใช้เลี้ยงหมูและการนำเข้าเนื้อในปีนี้ โดยเมื่อปีที่แล้ว จีนนำเข้าเมล็ดถั่วเหลือง ข้าวโพด และเนื้อสัตว์จากต่างประเทศเป็นจำนวนมากที่สุด ทำให้ราคาสินค้าเหล่านี้สูงขึ้นทั่วโลก
มีการคาดการณ์ว่าเนื้อหมูจีนจะยังคงมีราคาสูงต่อไปอีกระยะหนึ่ง ในขณะที่การนำเข้าเนื้อก็จะเพิ่มสูงขึ้นเป็นสถิติใหม่ โดยกระทรวงเกษตรของจีนยืนยันว่าจะปราบปรามวัคซีนต้านไวรัสเถื่อนที่เป็นสาเหตุของไวรัสกลายพันธุ์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความกังวลของรัฐบาลจีนต่อการควบคุมไวรัสระบาดครั้งนี้
หลิน กัวฟา นักวิเคราะห์อาวุโสของ Bric Agriculture Group คาดว่า การขยายพันธุ์หมูในจีนปีนี้จะลดลงไม่เกิน 10 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากไวรัสระบาดแค่ในบริเวณทางตอนเหนือของจีน และสถานการณ์ในบริเวณอื่นของจีนก็ถือว่ายังคงที่
เวียดนาม
กระทรวงเกษตรเวียดนามระบุว่า ทางการได้แยกหมูออกมา 2,000 ตัวนับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากพบการระบาดของไวรัสดังกล่าว โดยทางกระทรวงระบุว่ายังสามารถควบคุมการระบาดได้ แม้จะพบการระบาดใหม่ในพื้นที่กว่า 20 จุดทั่วประเทศก็ตาม
จนถึงช่วงสิ้นเดือนธันวาคม เวียดนามมีหมู 27.3 ล้านตัว คิดเป็น 89 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนหมูทั้งหมดก่อนที่ไวรัสจะระบาดเมื่อปีค.ศ. 2019 และคร่าชีวิตหมูไปเกือบ 6 ล้านตัว โดยเวียดนามตั้งเป้าเริ่มผลิตวัคซีนต้านไวรัสในช่วงปลายเดือนมิถุนายนหรือต้นเดือนกรกฎาคม
มาเลเซีย
มีการพบไวรัสนี้ในมาเลเซียครั้งแรกเมื่อเดือนที่แล้ว โดยทางการมาเลเซียจะแยกหมู 3,000 ตัวในรัฐซาบาห์ออกจากฝูง มาเลเซียเริ่มตรวจหาไวรัสหลังหมูป่าตัวหนึ่งตาย และตรวจหาไวรัสมากขึ้นหลังผลการตรวจในห้องปฏิบัติการยืนยันว่าพบไวรัสชนิดนี้ในหมูอื่น ๆ รวมถึงหมูมีเคราบอร์เนียว ซึ่งเป็นสัตว์ที่อยู่ในภาวะเสี่ยงสูญพันธุ์ อ้างอิงจากองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ
เมื่อวันที่ 7 มีนาคม ทางการรัฐซาบาห์ระบุว่า ไวรัสได้แพร่กระจายไปยังบริเวณอื่น แต่ยังไม่พบไวรัสในฟาร์มหมูพาณิชย์ที่เป็นแหล่งผลิตเนื้อหมูส่วนใหญ่ของรัฐ โดยเจฟฟรีย์ คิทินกัน รองมุขมนตรีของรัฐซาบาห์ ระบุว่า แม้ไวรัสดังกล่าวจะไม่ติดต่อไปยังมนุษย์ แต่ก็สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจและสังคมได้เป็นอย่างมาก
เกาหลีใต้
แม้จะไม่พบไวรัสในเกาหลีใต้มาตั้งแต่เดือนตุลาคม แต่ทางการเกาหลีใจ้ก็ระบุว่าจะเพิ่มมาตรการป้องกันก่อนที่จะถึงฤดูผสมพันธุ์ของหมูป่าในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม
ทั้งนี้ หมูจรจัดเป็นสาเหตุหลักของการระบาดของไวรัสจากชายแดนทางเหนือของประเทศไปยังฟาร์มหมูท้องถิ่น
กระทรวงเกษตรเกาหลีใต้ระบุว่า เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ เกาหลีใต้ยกระดับควบคุมชายแดนหลังมีรายงานว่าพบการระบาดของไวรัสในบริเวณอื่น ๆ ของเอเชีย