สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สื่อซีเอ็นเอ็นปลดพนักงานสามคนออกเนื่องจากเดินทางเข้าสำนักงานโดยยังไม่ได้ฉีดวัคซีนต้านโรคโควิด-19 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยอ้างอิงจากบันทึกที่ส่งไปยังพนักงานเป็นการภายในเมื่อวันพฤหัสบดี
บันทึกที่ทางสำนักข่าวรอยเตอร์ได้รับระบุว่า นายเจฟ ซัคเคอร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ของซีเอ็นเอ็น กล่าวกับพนักงานว่า ทางบริษัทมีนโยบายไม่อนุญาตให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว และกำหนดให้พนักงานต้องฉีดวัคซีนเพื่อเข้ามาทำงานในสำนักงานหรือทำงานในพื้นที่กับพนักงานคนอื่นๆ
บันทึกดังกล่าวระบุว่า “ทุกคนในแผนกข่าว แผนกกีฬา และผู้ทำงานในสตูดิโอที่เข้ามาทำงานในตอนนี้และนับจากนี้ จะต้องฉีดวัคซีน เรามีนโยบายที่ชัดเจนมาหลายเดือนแล้ว และไม่ควรจะต้องมีความสับสนใดๆ อีก”
ซีเอ็นเอ็นยังระบุด้วย พนักงานอาจต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนเพื่อเข้าสำนักงานแทนการใช้ระบบเชื่อใจเหมือนเมื่อก่อน นอกจากนี้ นายซัคเคอร์ยังระบุด้วยว่า ซีเอ็นเอ็นจะเลื่อนวันกำหนดกลับเข้าสำนักงานในสหรัฐฯ จากวันที่ 7 กันยายนเป็นราวกลางเดือนตุลาคม เนื่องจากมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสสูงขึ้นทั่วประเทศ และกำหนดให้พนักงานในสำนักงานที่นครลอสแอนเจลิส กรุงวอชิงตัน และนครแอตแลนตา ต้องใส่หน้ากากในที่ทำงาน
อย่างไรก็ตาม บันทึกฉบับนี้ไม่ได้ระบุว่าเหตุการณ์พนักงานสามคนที่เข้าสำนักงานโดยไม่ฉีดวัคซีนนี้เกิดขึ้นที่ใด
ทั้งนี้ บริษัททั่วสหรัฐฯ ได้เปลี่ยนนโยบายการฉีดวัคซีนของพนักงาน การใส่หน้ากาก และการกลับเข้าทำงานในสำนักงานเนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงมีประกาศจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ ที่กำหนดให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบแล้วยังคงต้องใส่หน้ากากต่อไป
ขณะนี้ สำนักงานส่วนใหญ่ของซีเอ็นเอ็นเปิดให้พนักงานเข้าไปทำงานได้โดยสมัครใจ โดยมีเงื่อนไขที่ว่าพวกเขาต้องฉีดวัคซีนครบแล้ว
(ที่มา: สำนักข่าวรอยเตอร์)