ผู้วางนโยบายเศรษฐกิจจีนกำลังประสบความยากลำบากในการเลือกเครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่ประเทศกำลังมีหนี้เสียอยู่ในระบบถึงห้าแสนล้านดอลลาร์
เจ้าหน้าที่กังวลว่า หากทางการเพิ่มการอัดฉีดเงินเข้าระบบมากขึ้น ปัญหาหนี้เสียอาจทวีความรุนแรงมากขึ้น แทนที่เงินที่ถูกอัดฉีดเข้าสู่ระบบจะช่วยกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ
นักวิเคราะห์กล่าวว่า จีนกำลังเผชิญกับภาวะที่เรียกว่า "กับดักสภาพคล่อง" (liquidity trap) ซึ่งหมายถึงการที่ธนาคารกลางเพิ่มเงินที่ไหลเวียนในระบบ แต่ไม่สามารถช่วยให้จีดีพีของประเทศเติบโต
Max Zenglein จาก Mercator Institute of China Studies ที่กรุงเบอร์ลิน ของเยอรมนี กล่าวว่า ปัจจุบันเป็นช่วงเวลาสำคัญของจีน ซึ่งขณะนี้ธนาคารกลางจีนไม่ยอมรับว่าเกิด liquidity trap ขึ้น แต่เขาเห็นสัญญาณจากข้อมูลดิบที่ชี้ว่า ภาคเอกชนเก็บเงินสดไว้และไม่ยอมลงทุน ดังนั้นจึงไม่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจเท่าที่ควร
ในตอนนี้ รัฐบาลจีนพยายามหาทางออกโดยให้รัฐวิสาหกิจจีนเพิ่มการลงทุนในระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน และโครงการด้านอุตสาหกรรม และธนาคารต่างๆ ถูกขอร้องให้จัดหาเงินสนับสนุนรัฐวิสาหกิจเหล่านี้
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ Max Zenglein กล่าวว่า ในอีกหลายเดือนจากนี้ น่าจะเกิดหนี้เสียเพิ่มขึ้นในระบบการเงินของประเทศจีน
