ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ( Centers for Disease Control and Prevention) หรือ ซีดีซี ประกาศผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 โดยยกเลิกคำแนะนำให้ผู้ที่ใกล้ชิดกับคนที่ติดโควิดต้องกักตัว และไม่จำเป็นต้องมีการเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างน้อย 6 ฟุตอีกต่อไป
การเปลี่ยนแปลงคำแนะนำมาตรการควบคุมการระบาดครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่ซีดีซีมีรายงานว่า 95% ของประชากรในสหรัฐฯ อายุ 16 ปีขึ้นไป มีภูมิคุ้มกันโควิด-19 แล้ว ไม่ว่าจะมาจากการฉีดวัคซีนหรือการติดเชื้อ
ก่อนหน้านี้ ซีดีซีแนะนำให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนยังไม่ครบและใกล้ชิดกับคนติดเชื้อโคโรนาไวรัส ต้องกักตัวในบ้านอย่างน้อย 5 วัน แต่ล่าสุดทางซีดีซีบอกว่าการกักตัวนี้ไม่จำเป็นอีกต่อไป แต่ยังคงแนะนำให้ผู้ใกล้ชิดคนติดเชื้อควรสวมหน้ากากต่อเนื่อง 10 วัน และเข้ารับการตรวจหาเชื้อหลังจาก 5 วันที่ใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ
ส่วนผู้ที่มีผลตรวจโควิดเป็นบวกนั้น ซีดีซีแนะนำให้แยกตัวเองออกจากผู้อื่นอย่างน้อย 5 วัน ไม่ว่าจะฉีดวัคซีนครบแล้วหรือไม่ และสามารถออกจากการกักตัวได้หากไม่มีไข้เป็นเวลา 24 ชม. โดยที่ไม่ต้องใช้ยาลดไข้ และไม่มีอาการอื่น ๆ หรือมีอาการดีขึ้น
คำแนะนำของซีดีซีมีผลครอบคลุมประชาชนอเมริกันทุกคน และซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับโรงเรียนต่าง ๆ ในปีการศึกษาใหม่ที่ส่วนใหญ่จะเริ่มขึ้นในเดือนนี้ โดยทางซีดีซียังได้ยกเลิกคำแนะนำที่เรียกว่า "test-to-stay" หรือการให้นักเรียนที่ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อต้องรับการตรวจหาเชื้อเป็นประจำทุกวันแทนการกักตัว
นั่นหมายความว่าเด็กนักเรียนที่ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อสามารถมาเรียนได้ตามปกติและไม่จำเป็นต้องตรวจหาเชื้อทุกวันอีกด้วย
สำหรับการสวมหน้ากากนั้น ซีดีซียังคงแนะนำให้สวมในพื้นที่ที่มีอัตราการระบาดสูงภายในชุมชน หรือใครก็ตามที่มีความเสี่ยงสูงต่อการป่วยหนักหากติดเชื้อ ส่วนในโรงเรียนส่วนใหญ่นั้นจะไม่มีการบังคับให้นักเรียนต้องสวมหน้ากากขณะอยู่ในชั้นเรียนอีกต่อไป
ทั้งนี้ ตัวเลขผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสในสหรัฐฯ ค่อนข้างคงที่ในช่วงฤดูร้อนปีนี้ อยู่ที่ระดับเฉลี่ย 100,000 คนต่อวัน และมีผู้เสียชีวิตจากโควิดในระดับ 300 - 400 คนต่อวัน
- ที่มา: เอพี