ประธานาธิบดี มูน แจ-อิน ของเกาหลีใต้ ประกาศต้อนรับ ‘การกลับมาของอเมริกา’ สู่เวทีโลก หลังการประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดี โจ ไบเดน ในบ่ายวันศุกร์ ที่กรุงวอชิงตัน พร้อมเผย สองประเทศยืนยันมุ่งหน้าทำงานร่วมกันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการปลดอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลี
ปธน.มูน เป็นผู้นำประเทศคนที่ 2 ที่เดินทางมาพบผู้นำสหรัฐฯ ด้วยตนเอง เพื่อหารือประเด็นเร่งด่วนด้านการทูต ในการจัดการกับโครงการพัฒนานิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ แม้ว่าทำเนียบขาวจะส่งสัญญาณออกมาก่อนหน้านี้ว่า สหรัฐฯจะขอดูภาพรวมและทิศทางของสถานการณ์ต่อไปในอนาคตก่อน ตามรายงานของสำนักข่าว AP
นอกจากนั้น ผู้นำทั้งสองยังได้พูดคุยประเด็นความร่วมมือด้านการแจกจ่ายวัคซีนโควิด-19 การแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน และเรื่องความกังวลต่อความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกที่มีจีนเป็นผู้ก่อแรงกระเพื่อม
ภายหลังการประชุมซึ่งใช้เวลานานกว่าที่กำหนดไว้ ปธน.ไบเดน บอกกับผู้สื่อข่าวว่า การหารือเป็นไปด้วยดี และจะช่วยให้ทั้งสองประเทศเดินหน้าร่วมมือกันต่อไป พร้อมทั้งยังเป็นการชี้ให้เห็นถึง “ประวัติศาสตร์การเสียสละร่วมกันของทั้งสองที่มีมาอย่างยาวนานด้วย”
ก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำนั้น ปธน. มูน ได้ร่วมประชุมกับรัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ จินา ไรมอนโด และผู้บริหารบริษัท Qualcomm (ควอลคอมม์) ของสหรัฐฯ บริษัทซัมซุง และจากอีกหลายบริษัท โดยรายงานข่าวระบุว่า ผู้นำรัฐบาลกรุงโซลได้ร้องขอให้กรุงวอชิงตัน พิจารณาอนุมัติสิทธิประโยชน์ทางภาษีเป็นกรณีพิเศษ เพื่อช่วยลดภาระการลงทุนของธุรกิจเกาหลีใต้ในสหรัฐฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ปธน.มูน ได้ ยืนยันว่า ทั้งสองประเทศสามารถทำประโยชน์จากการความร่วมมือเสริมสร้างความแข็งแกร่งห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมเทคโนโลยีไปด้วยกันได้
ก่อนหน้านี้ ปธน.ไบเดน ประกาศพร้อมให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมชิปประมวลผลคอมพิวเตอร์ของสหรัฐฯ ในช่วงที่เกิดภาวะขาดแคลนชิป เพราะวิกฤตโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอื่นๆ อีกหลายประเภท และเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ปธน.ไบเดน ได้ประชุมกับตัวแทนบริษัทสำคัญๆ หลายแห่ง เช่น ซัมซุง เพื่อหารือประเด็นนี้ และเมื่อไม่นานมานี้ ยังได้ประกาศแผนการลงทุนมูลค่า 50,000 ล้านดอลลาร์ ในงานวิจัยและผลิตเซมิคอนดักเตอร์
ทั้งนี้ แถลงการณ์ล่าสุดจากทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เพิ่งยืนยันว่า ซัมซุง วางแผนจะลงทุนเป็นจำนวนเงิน 17,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างโรงงานแห่งใหม่สำหรับการผลิตชิปในสหรัฐฯ ซึ่งมีรายงานข่าวว่าจะสร้างขึ้นเมืองออสติน รัฐเท็กซัส และน่าจะช่วยสร้างงานได้ถึง 1,800 ตำแหน่ง
แถลงการณ์ของเกาหลีใต้ยังระบุด้วยว่า กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ และกระทรวงอุตสาหกรรมเกาหลีใต้ ตกลงกันในวันศุกร์ด้วยว่า จะเดินหน้าความร่วมมือในอุตสาหกรรมชิป รวมทั้งด้านมาตรการนโยบายต่างๆ เช่น แผนการส่งเสริมธุรกิจ การทำวิจัยร่วม การพัฒนามาตรฐาน และการอบรมรวมทั้งการแลกเปลี่ยนกำลังคน เป็นต้น