รัฐสภาออสเตรียลงมติถอดถอนนายกรัฐมนตรี เซบาสเตียน เคิร์ซ ในการลงมติไม่ไว้วางใจในวันจันทร์ ทำให้นายกรัฐมนตรีวัย 32 ปีผู้นี้ต้องลงจากตำแหน่ง หลังเผชิญแรงสั่นสะเทือนจากข้อกล่าวหาเรื่องคอร์รัปชั่น
การถอดถอนนายเคิร์ซออกจากตำแหน่ง พร้อมกับขับพรรค Austrian People's Party ออกจากรัฐบาลครั้งนี้ นำโดยพรรคฝ่ายค้าน Social Democrats ซึ่งได้รับแรงหนุนจากพรรคอนุรักษ์นิยม Freedom Party ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นพันธมิตรของนายเคิร์ซ
ประธานาธิบดี อเล็กซานเดอร์ แวน เดอ เบลเลน จะเป็นผู้เลือกนายกฯ คนใหม่ให้ทำหน้าที่รักษาการจนกว่าจะถึงการเลือกตั้งใหญ่ในเดือนกันยายน
ด้วยวัย 32 ปี เซบาสเตียน เคิร์ซ ถือเป็นผู้นำที่อายุน้อยที่สุดในโลก เขาได้รับความนิยมในระดับสูงในหมู่ประชาชน แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้เขาสามารถเอาตัวรอดจากการลงมติไม่ไว้วางใจได้
เมื่อวันอาทิตย์ พรรค Austrian People's Party ของเขาได้รับชัยชนะด้วยคะแนนเสียง 34.9% ในการเลือกตั้งสภายุโรปในออสเตรีย ตามมาด้วยพรรคฝ่ายค้าน Social Democrats 23.6% และพรรค Freedom Party 18.1% ตามลำดับ
เคิร์ซ ถือเป็นนายกฯ ออสเตรียคนแรกหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ที่ต้องออกจากตำแหน่งเพราะถูกลงมติไม่ไว้วางใจ
เขาเขียนข้อความลงในเฟสบุ๊กส่วนตัว กล่าวหาฝ่ายตรงข้ามว่าพยายาม "เล่นเกมแก้แค้น" และว่า "ในที่สุดแล้ว ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน ซึ่งก็คือเดือนกันยายนนี้"