เมื่อต้นเดือนมีนาคม มีการประชุมระหว่างประเทศที่กรุงเวียงจันทน์เรื่องการใช้ทรัพยากรน้ำ จุดสนใจของการประชุมอยู่ที่โอกาสของการผลิตพลังงานสะอาดจากทรัพยากรน้ำและการสร้างเขื่อนเพื่อเก็บน้ำ
ตัวแทนของคณะกรรมการระหว่างประเทศเพื่อพัฒนาลุ่มน้ำโขงเตือนว่า แม้โครงการสร้างเขื่อนผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำ จะเป็นโอกาสการพัฒนาที่สำคัญสำหรับภูมิภาคเอเชีย แต่การเร่งพัฒนาโครงการเหล่านี้ขึ้นมาก็สร้างปัญหาสำหรับความร่วมมือในระดับภูมิภาคได้เช่นกัน
ขณะนี้ลาวกำลังมีโครงการสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำกว่า 350 แห่ง ด้วยความสนับสนุนจากภาคเอกชน ซึ่งคาดว่าจะผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ถึงกว่า 26,000 เมกกะวัตต์
แต่โครงการเขื่อนใหญ่สองแห่งคือเขื่อนไซยะบุรีทางเหนือของประเทศ และเขื่อนดอนสะโฮงซึ่งอยู่ห่างจากพรมแดนด้านกัมพูชาเพียงสองกิโลเมตร ก็ได้สร้างข้อโต้แย้งขึ้น
เวียดนามร้องเรียนว่า เขื่อนดอนสะโฮงจะส่งผลต่อน้ำที่ไหลลงบริเวณสามเหลี่ยมแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นแหล่งอู่ข่าวอู่น้ำสำคัญของเวียดนาม
ด้านนักรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมก็เป็นกังวลว่า แนวโน้มการลงทุนในโครงการใหญ่ๆ โดยภาคเอกชนแทนที่จะเป็นภาครัฐ จะทำให้ยากขึ้นในเรื่องการตรวจสอบโครงการเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำขนาดใหญ่ในเอเชีย
รวมทั้งเรื่องโอกาสการร้องเรียนของชุมชน และเรื่องความรับผิดชอบเพื่อสนองตอบต่อปัญหาของชุมชนที่ได้รับผลกระทบด้วย
