ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ผูกปิ่นโต! ร้านอาหารสหรัฐฯ ผุดไอเดียเก็บค่าสมาชิกรายเดือน


In this June 12, 2020, photo, a server interacts with her customers at a San Francisco. California, restaurant. The hospitality industry has been hard hit by workers quitting their jobs.
In this June 12, 2020, photo, a server interacts with her customers at a San Francisco. California, restaurant. The hospitality industry has been hard hit by workers quitting their jobs.

ชาวอเมริกันจำนวนมากเสียค่าใช้จ่ายรายเดือนที่เรียกว่าค่าสมาชิกเพื่อรับบริการต่าง ๆ เช่น ดูภาพยนตร์ ฟังเพลง และแม้แต่ของใช้ในครัวเรือน และตอนนี้ร้านอาหารบางแห่งก็หวังว่าพวกเขาจะสามารถทำแบบเดียวกันนี้ได้

บริษัทใหญ่ ๆ เช่น Panera, P.F. Chang และร้านอาหารเล็ก ๆ ในละแวกใกล้เคียง กำลังทดลองใช้รูปแบบการสมัครสมาชิกเพื่อดึงลูกค้าให้มาทานอาหารที่ร้านของตนมากขึ้นเรื่อย ๆ บางร้านให้บริการเครื่องดื่มแบบไม่จำกัด หรือบริการจัดส่งอาหารฟรีโดยมีค่าบริการรายเดือน ส่วนร้านอื่น ๆ ก็มีการนำอาหารเรียกน้ำย่อยที่ลูกค้าชื่นชอบออกมาเสิร์ฟทุกครั้ง

ปัจจุบันร้านอาหารจำนวนมากกำลังตามติดเทรนด์ดังกล่าว ข้อมูลจาก Rocket Money ซึ่งเป็นเว็บไซต์การเงินส่วนบุคคลระบุว่า คนอเมริกันโดยเฉลี่ยมีการสมัครเป็นสมาชิกรับบริการต่าง ๆ 6.7 ครั้งในปี 2022 ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 4.2 ครั้งในปี 2019

Gravitas ร้านอาหารราคาแพงในกรุงวอชิงตัน มีค่าสมัครสมาชิก 130 ดอลลาร์ต่อเดือน โดยสมาชิกของ Gravitas Supper Club จะได้รับอาหารแบบสามคอร์สสั่งกลับบ้านสำหรับสองคน ร้านอาหารให้บริการซื้อกลับบ้านในช่วงที่เกิดโรคระบาดใหญ่ แต่ความต้องการในบริการนี้ลดลงเมื่อร้านอาหารเปิดให้บริการอีกครั้ง แต่ถึงกระนั้น The Gravitas Supper Club ซึ่งให้บริการอาหารเดือนละประมาณ 60 มื้อก็ยังคงให้บริการต่อไป

ในขณะเดียวกัน ร้านอาหารที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศอย่าง P.F. Chang ก็เล็งเห็นถึงโอกาสที่จะเพิ่มยอดสั่งซื้ออาหารกลับบ้านด้วยแผนการสมัครสมาชิก โดยเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา P.F. Chang ได้เปิดบริการสมัครสมาชิกในราคาเดือนละ 6.99 ดอลลาร์ซึ่งรวมบริการจัดส่งอาหารฟรีด้วย

ทางด้านร้าน Panera ในเซนต์หลุยส์ ได้เปิดตัวโปรแกรมการสมัครสมาชิกในช่วงต้นปี 2020 โดยลูกค้าสามารถดื่มกาแฟและชาได้อย่างไม่จำกัดในราคา 8.99 ดอลล่าร์ต่อเดือน หลังจากนั้นลูกค้าเริ่มเข้าร้านหลายครั้งต่อสัปดาห์ และราว 1 ใน 3 ของการเข้ามาในร้านลูกค้าเหล่านั้นก็ซื้ออาหารด้วย เมื่อปีที่แล้ว Panera ได้ขยายโปรแกรมการสมัครสมาชิก โดยสมาชิกสามารถจ่ายในราคา 11.99 ดอลล่าร์ต่อเดือนเพื่อดื่มเครื่องดื่มร้อนและเย็นได้ไม่จำกัดอีกด้วย

El Lopo บาร์แห่งหนึ่งในนครซานฟรานซิสโก มีสมาชิก 26 คนใน Take-Care-Of-Me Club โดยสมาชิกจ่ายค่าสมาชิกเดือนละ 89 ดอลลาร์ สำหรับเครดิตในการรับประทานอาหารในราคา 100 ดอลลาร์ หรือจ่ายค่าสมาชิกเดือนละ 175 ดอลลาร์สำหรับเครดิต 200 ดอลลาร์ เมื่อสมาชิกเข้ามาในร้าน ทางร้านก็จะเริ่มนำอาหารจานโปรดของพวกเขาออกมาเสิร์ฟ และสมาชิกเหล่านี้สามารถให้เครื่องดื่มฟรีหนึ่งอย่างแก่คนในบาร์ทุกครั้งที่มาใช้บริการอีกด้วย

แดเนียล เอซาร์คแมน (Daniel Azarkman) เจ้าของ El Lopo ซึ่งเริ่มเปิดคลับในเดือนมีนาคม 2021 เพื่อนำผู้คนกลับมาที่ร้านหลังการระบาดใหญ่ เขาได้ยินว่าร้านอาหารต่าง ๆ ทั่วประเทศก็สนใจทำโครงการในลักษณะเดียวกันนี้ และว่า “สิ่งที่ประสบความสำเร็จจริง ๆ ก็คือการทำให้ลูกค้าเข้ามาที่ร้านบ่อยขึ้น”

ริค คาแมค (Rick Camac) ผู้นำด้านอุตสาหกรรมสัมพันธ์ที่สถาบัน Culinary Education ในนิวยอร์กซิตี้ คาดว่าร้านอาหารจำนวนมากจะเสนอให้มีระบบการสมัครสมาชิกในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ ซึ่งลูกค้าเองก็คุ้นเคยกับระบบการสมัครสมาชิกอยู่แล้ว และรายได้ประจำเดือนนี้ยังสามารถช่วยบรรดาร้านอาหารอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าการสมัครสมาชิกทุกโปรแกรมจะประสบความสำเร็จเสมอไป อย่างเช่น On the Border Mexican Grill ที่เปิดตัว Queso Club ซึ่งให้บริการ Cheese Dip ฟรีเป็นเวลาหนึ่งปีในราคา 1 ดอลลาร์ ในปี 2021 แต่โปรแกรมนี้ก็ต้องหยุดรับสมาชิกใหม่ในปีต่อมา

เอดิแทน เรมี่ (Edithann Ramey) หัวหน้าฝ่ายการตลาดของ On the Border กล่าวว่า มีผู้สมัครสมาชิก Queso Club มากกว่า 150,000 คน โดยสมาชิกเหล่านี้มาทานอาหารบ่อยกว่าร้านอาหารทั่วไปถึงเจ็ดเท่า แต่ร้านอาหารไม่ได้ทำเงินมากพอที่จะครอบคลุมค่าใช้จ่ายของ Cheese Dip ได้ดังนั้นทางบริษัทคาดว่าจะขึ้นราคาค่าบริการและเปิดตัวใหม่อีกครั้งในภายหลัง

ส่วนร้านอาหารอื่น ๆ ที่ยกเลิกระบบสมาชิกกล่าวว่า ร้านของตนไม่มีเวลาที่จะจัดหาอาหารให้แก่สมาชิก

  • ที่มา: เอพี

XS
SM
MD
LG