สหรัฐฯ ลงดาบบริษัทเอเชีย ฐานส่งเชื้อเพลิงให้เกาหลีเหนือ

เมื่อวันศุกร์ สหรัฐฯ ออกมาตรการลงโทษบุคคลและบริษัทในเอเชียที่ถูกระบุว่า ช่วยเกาหลีเหนือจัดซื้อเชื้อเพลิง ซึ่งขัดกับมาตรการลงโทษเกาหลีเหนือของสประชาชาติ หรือ ยูเอ็น ตามรายงานของเอพี

สำนักงานควบคุมสินทรัพย์ต่างชาติของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ พุ่งเป้าไปที่บุคคลสองคนและบริษัทสามแห่งจากสิงคโปร์ ไต้หวัน และหมู่เกาะมาร์แชลล์ในมหาสมุทรแปซิฟิก

สหรัฐฯ กล่าวหาว่า บุคคลและบริษัทเหล่านี้ขนส่งพลังงานทางเรืออย่างผิดกฎหมาย และละเมิดมาตรการลงโทษของยูเอ็น ที่จำกัดการนำเข้าผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและการสนับสนุนการพัฒนาโครงการอาวุธและกองทัพของเกาหลีเหนือ

มาตรการนี้ถือเป็นครั้งแรกที่สหรัฐฯ พุ่งเป้าไปที่เกาหลีเหนือ หลังเกาหลีเหนือเริ่มยิงขีปนาวุธใหม่ถึงหกครั้งในช่วงไม่ถึงสองสัปดาห์

เมื่อวันพฤหับดี เกาหลีเหนือยังบินเครื่องบินรบ 12 ลำบริเวณใกล้ชายแดนเกาหลีใต้ ทำให้เกาหลีใต้จัดเตรียมเครื่องบินรบ 30 ลำเพื่อตอบโต้ ตามข้อมูลของเกาหลีใต้

แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ ระบุว่า เกาหลีเหนือยังคงทดสอบยิงขีปนาวุธวิถีโค้งด้วยระดับที่ “ไม่เคยเห็นมาก่อน” โดยในปีนี้ปีเดียว เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธวิถีโค้งไปแล้ว 41 ครั้ง

ทั้งนี้ ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังการทดสอบขีปนาวุธครั้งล่าสุดของเกาลีเหนือ ทำให้เกาหลีใต้ สหรัฐฯ และญี่ปุ่น จัดซ้อมรบร่วมเป็นการโต้ตอบ

บริษัทที่ถูกลงโทษโดยสหรัฐฯ ครั้งนี้ ได้แก่บริษัท New Eastern Shipping ที่ตั้งในหมู่เกาะมาร์แชลล์ บริษัท Anfasar Trading (S) Pte. Ltd. และบริษัท Swanseas Port Services Pte. Ltd. ที่จดทะเบียนในสิงคโปร์ สหรัฐฯ ยังพุ่งเป้าไปที่บริษัท Kwek Kee Seng ในสิงคโปร์ และบริษัท Chen Shih Huan ในต้หวัน เนื่องจากสองบริษัทนี้ประสานการจัดส่งพลังงานให้เกาหลีเหนือ

มาตรการลงโทษครั้งนี้ จะทำให้บริษัทเหล่านี้ไม่สามารถเข้าถึงทรัพย์สินหรือสินทรัพย์ทางการเงินในสหรัฐฯ และทำให้บริษัทและชาวอเมริกันไม่สามารถทำธุรกิจกับบริษัทเหล่านี้ได้

ไบรอัน เนลสัน รองรัฐมนตรีด้านการก่อการร้ายและข่าวกรองด้านการเงินของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่า การยิงขีปนาวุธวถีโค้งของเกาหลีเหนือ แสดงให้เห็นถึงการไม่เคารพมติของคณะมนตรีความมั่นคงของยูเอนอย่างต่อเนื่อง

เขายังระบุด้วยว่า สหรัฐฯ จะเดินหน้าใช้มาตรการพหุภาคีและติดตามความพยายามหลบเลี่ยงการลงโทษของเกาหลีเหนือต่อไป รวมถึงการระบุผู้ที่ให้ความช่วยเหลือเกาหลีเหนือด้วย

• ที่มา: เอพี