ลิ้งค์เชื่อมต่อ

งานวิจัยชี้ การบำบัดเยาวชนข้ามเพศอาจเริ่มได้ตั้งแต่อายุยังน้อย


Transgender
Transgender

สมาคมสุขภาพคนข้ามเพศระดับแนวหน้าได้ลดอายุขั้นต่ำที่แนะนำสำหรับการเริ่มต้นการรักษาการแปลงเพศ ซึ่งรวมถึงการใช้ฮอร์โมนเพศและการทำศัลยกรรมต่าง ๆ

สมาคม World Professional Association for Transgender Health กล่าวว่า เด็กสามารถเริ่มใช้ฮอร์โมนได้เมื่ออายุ 14 ปี ซึ่งเร็วกว่าที่ทางสมาคมเคยแนะนำไว้ก่อนหน้านี้ถึง 2 ปี และการผ่าตัดบางอย่างทำได้เมื่ออายุ 15 หรือ 17 ปี ซึ่งเร็วกว่าคำแนะนำก่อนหน้านี้ประมาณ 1 ปี แม้ทางสมาคมจะรับทราบถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น แต่ก็กล่าวว่าการไม่อนุมัติให้เข้ารับการรักษาในขณะที่อายุยังน้อยนั้นเป็นการผิดจรรยาบรรณและยังเป็นอันตรายอีกด้วย

ทั้งนี้ ทางสมาคมได้มอบสำเนาเอกสารแนวทางปฏิบัติในเรื่องการรักษาเด็กข้ามเพศที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงแก้ไขแล้วให้แก่เอพี ก่อนที่จะนำไปเผยแพร่ในวารสารทางการแพทย์ ประมาณปลายปีนี้ นอกจากนี้ทางสมาคมยังให้การสนับสนุนมาตรฐานการดูแลตามความเป็นจริง รวมถึงคณะแพทย์ นักวิทยาศาสตร์ด้านสังคมศาสตร์ และกลุ่มคนอื่น ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับปัญหาสุขภาพของคนข้ามเพศมากกว่า 3,000 คน

การเปลี่ยนแปลงแก้ไขดังกล่าวนี้อิงตามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ และการทบทวนหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับประโยชน์และโทษของการรักษาคนข้ามเพศในหมู่วัยรุ่น ที่อัตลักษณ์ทางเพศไม่สอดคล้องกับเพศเมื่อแรกเกิด แม้ว่าหลักฐานดังกล่าวจะมีอยู่จำกัด แต่ก็พบเห็นได้มากขึ้นในทศวรรษที่ผ่านมา

ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่าการรักษาจะช่วยให้เด็กมีสุขภาพจิตดีขึ้น และช่วยลดพฤติกรรมการฆ่าตัวตายได้

นายแพทย์ อีไล โคลแมน (Eli Coleman) ประธานฝ่ายมาตรฐานการดูแลของสมาคมฯ ซึ่งเป็นผู้อำนวยการโครงการเรื่องเพศวิถีของมนุษย์แห่งมหาวิทยาลัย University of Minnesota กล่าวว่า การเริ่มการรักษาให้เร็วขึ้นช่วยให้วัยรุ่นข้ามเพศได้สัมผัสกับการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายของการแตกเนื้อหนุ่มสาวในเวลาเดียวกับวัยรุ่นคนอื่น ๆ

แต่เขาก็เน้นว่าอายุเป็นเพียงปัจจัยหนึ่ง แต่วุฒิภาวะทางอารมณ์ การยินยอมของผู้ปกครอง ความไม่พึงในในเพศของตนที่มีมายาวนาน และการประเมินทางจิตวิทยาอย่างรอบคอบ ก็เป็นปัจจัยที่ต้องนำมาประเมินด้วยเช่นเดียวกัน

เขากล่าวอีกว่า “แน่นอนว่ายังมีวัยรุ่นอีกมากมายที่ไม่มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ หรือทางความเข้าใจในการตัดสินใจอย่างถูกต้อง” และนั่นคือเหตุผลที่ทางสมาคมแนะนำให้มีการประเมินโดยหลาย ๆ สาขาวิชาชีพด้วยความรอบคอบ

นอกจากนี้แล้ว แนวทางที่ได้รับการปรับปรุงแก้ไขใหม่ยังรวมถึงคำแนะนำสำหรับการรักษาในหมู่ผู้ใหญ่ แต่คำแนะนำสำหรับวัยรุ่นจำต้องได้รับความสนใจมากขึ้น เนื่องจากเรื่องนี้เกิดขึ้นในขณะที่มีเด็กจำนวนมากขึ้นที่ถูกส่งตัวไปยังคลินิกที่ให้การรักษาทางการแพทย์สำหรับคนข้ามเพศ ควบคู่ไปกับความพยายามครั้งใหม่ในการป้องกันหรือจำกัดการรักษา

ผู้เชี่ยวชาญหลาย ๆ คนกล่าวว่า มีเด็กจำนวนมากขึ้นที่ต้องการการรักษาดังกล่าว เนื่องจากเด็กที่มีปัญหาในเรื่องเพศจะตระหนักถึงทางเลือกทางการแพทย์ของตนเองมากขึ้น

บรรดานักวิจารณ์ รวมถึงผู้คนจากในชุมชนการรักษาคนข้ามเพศ กล่าวว่า คลินิกบางแห่งเสนอการรักษาแบบที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงกลับคืนได้ให้แก่เด็กเร็วเกินไป เนื่องจากปัญหาเรื่องการเบี่ยงเบนทางเพศในเด็กเหล่านี้อาจหมดไปเมื่อพวกเขาโตขึ้นก็เป็นได้

นักจิตวิทยา เอริก้า แอนเดอร์สัน (Erica Anderson) ซึ่งลาออกจากตำแหน่งสมาชิกคณะกรรมการของสมาคม World Professional Association for Transgender Health เมื่อปีที่แล้ว หลังจากแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการรักษาที่ “สะเพร่า” ให้แก่เด็ก ๆ โดยที่ไม่ได้รับคำปรึกษาอย่างเพียงพอ บอกว่าการประเมินครั้งล่าสุดชี้ว่าอัตราเด็กที่มีความเบี่ยงเบนทางเพศนั้นสูงถึง 1 ใน 5 ซึ่งเธอโต้แย้งในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เพราะตัวเลขดังกล่าวน่าจะสะท้อนถึงเด็กที่มีปัญหาเรื่องเพศซึ่งไม่เหมาะกับการรักษาแบบตลอดชีวิต หรือการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายแบบถาวร

แต่ เก๊บ พูโลส (Gabe Poulos) ชาวเมืองแอชวิลล์ รัฐนอร์ธ แคโรไลน่า วัย 22 ปี ซึ่งได้รับการผ่าตัดเต้านมทิ้งเมื่ออายุ 16 ปี และกินฮอร์โมนเพศมาเป็นเวลา 7 ปีแล้ว กล่าวว่า เขามีปัญหาเรื่องเพศก่อนที่จะเข้ารับการรักษา และเขารู้สึกดีใจที่ได้รับการรักษาตั้งแต่อายุยังน้อย และยังมีความสุขมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม คำแนะนำในแนวทางใหม่นั้นรวมถึงการเริ่มใช้ยาที่เรียกว่า puberty blockers ในช่วงเริ่มต้นของการแตกเนื้อหนุ่มสาว ซึ่งสำหรับเด็กผู้หญิงจะอยู่ที่ประมาณอายุ 8 ถึง 13 ปี และสำหรับเด็กผู้ชายในอีก 2 ปีต่อมา

นอกจากนี้ยังมีคำแนะนำในการใช้ฮอร์โมนเพศ เอสโตรเจนหรือเทสโทสเตอโรน ว่าสามารถเริ่มใช้ได้ตั้งแต่อายุ 14 ซึ่งมักจะเป็นการรักษาแบบตลอดชีวิต การตัดเต้านมสำหรับหนุ่มข้ามเพศสามารถทำได้เมื่ออายุ 15 ปี และการผ่าตัดอวัยวะเพศส่วนใหญ่เริ่มตั้งแต่อายุ 17 ปี รวมถึงการตัดมดลูกและอัณฑะ ซึ่งเร็วกว่าคำแนะนำก่อนหน้าหนึ่งปี

  • ที่มา: เอพี

XS
SM
MD
LG