"ดร. สเเตรนจ์" หวนคืนจอ - เตรียมพบความสยองระดับใหม่

บริษัท Walt Disney Co ซึ่งเป็นเจ้าของ Marvel Studios ได้เปิดตัวและเริ่มฉายภาคสองของภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ฟอร์มใหญ่ Doctor Strange and the Multiverse of Madness หรือในชื่ออย่างเป็นทางการของไทย “ดร. สเเตรนจ์ จอมเวทย์มหากาฬ ในมัลติเวิร์สมหาภัย” ที่มาพร้อมกับความน่ากลัวที่จะเขย่าขวัญคอหนังทั่วโลกแล้ว

เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ (Benedict Cumberbatch) หวนคืนจออีกครั้งและรับบทเป็นตัวเอก ดร. สเเตรนจ์ ซึ่งเป็นศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบประสาทที่ผันตัวเป็นจอมเวทย์

เขากล่าวว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ “ลึกลับและน่ากลัวที่สุดในเหล่าบรรดาภาพยนตร์ในจักรวาลมาร์เวล”

ในภาคสองนี้ คอหนังจะได้รับชมการเดินทางข้ามมัลติเวิร์สมหาภัยของ ดร. สตีเฟ่น สเเตรนจ์ เพื่อไปช่วยสหายที่ชื่อว่า อเมริกา ชาเวช หรือ Miss America ซึ่งสหายผู้นี้กำลังถูกไล่ล่าจากศัตรูเพราะเธอมีความสามารถพิเศษในการเดินทางระหว่างเอกภพคู่ขนานต่าง ๆ ที่ เชื่อมต่อกันอย่างไม่มีสิ้นสุดของมัลติเวิร์ส และแต่ละเอกภพนั้นจะมีการใช้ชีวิตที่ต่างกันอีกด้วย

แซม รายมี่ ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้กล่าวว่า อีกตัวละครสำคัญที่จะเข้ามามีบทบาทและร่วมแสดงพลังเวทย์ คู่กับ ดร. สเเตรนจ์ คือ วานด้า แม็กซิมอฟฟ์ หรือ Scarlet Witch

ผู้กำกับเชื่อว่าความเก่งกาจและการใช้พลังวิเศษของทั้งสองตัวละครได้เพิ่มอรรถรสความลึกลับปนตลก และความน่ากลัวในรูปแบบนี้จะสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนๆได้เป็นอย่างดี

ผู้กำกับผู้นี้กล่าวเสริมว่า ความพิเศษของมัลติเวิร์สมาจากการสามารถปลดล็อกขีดจำกัดในการใส่เอกลักษณ์ใหม่ๆเข้าไปในตัวละครได้ และการให้ตัวละครเหล่านี้มีเวอร์ชั่นการใช้ชีวิตที่ต่างกันไปในแต่ละภพ โดยเขาหวังว่าโอกาสพิเศษนี้จะเพิ่มความเป็นไปได้ที่จะสร้างภาพยนตร์ในจักรวาลมาร์เวลเพิ่มเติมอีกหลายเรื่องในอนาคตด้วย

อีกประเด็นหนึ่งที่ได้รับความสนใจเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้ คือ การที่บริษัทผู้ผลิตอย่างดิสนีย์ปฏิเสธคำขอจากทางการซาอุดิอาระเบียให้ตัดฉากที่แสดงความหลากหลายทางเพศเกี่ยวกับกลุ่ม LGBTQ ออกไป ซึ่งฉากดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าหนึ่งในตัวเอกของภาพยนตร์โตมาในครอบครัวที่มีผู้ปกครองเป็นแม่ทั้งสองคน

ดิสนีย์เลือกที่จะเก็บฉากข้างต้นไว้อย่างเต็มรูปแบบและตัดสินใจไม่ฉายในภาพยนตร์เรื่องนี้ในหลายประเทศในแถบตะวันออกกลาง รวมทั้ง ซาอุดิอาระเบียด้วย อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวรอยเตอร์ไม่ได้รับการตอบกลับจากรัฐบาลซาอุดิอาระเบียเพื่อแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้

ทางด้านนักแสดงนำอย่าง คัมเบอร์แบตช์ ได้กล่าวว่า เขารู้สึกผิดหวังว่าฉากข้างต้นได้สร้างความไม่พอใจให้แก่ประเทศดังกล่าว และหวังว่าคนที่ชื่นชอบภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ของเขาในซาอุดิอาระเบีย ไม่ว่าจะแฟน ๆ เหล่านี้จะมีอัตลักษณ์ทางเพศในรูปแบบใด ก็จะสามารถหาช่องทางเพื่อรับชมภาพยนตร์เรื่องได้ในที่สุด

• ที่มา: รอยเตอร์