สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ผลพวงจากการที่รัสเซียรุกรานยูเครนกำลังทำให้ราคาวัตถุดิบในการผลิตรถยนต์พุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะโลหะต่าง ๆ เช่น อะลูมิเนียมที่ใช้ในการทำตัวถังรถ และพัลลาเดียมที่ใช้ในชิ้นส่วนเครื่องยนต์ ไปจนถึงนิกเกิลที่ใช้ในการการผลิตแบตเตอรีรถยนต์ไฟฟ้า
เมื่อวันจันทร์ ราคาอะลูมิเนียมและพัลลาเดียมในตลาดโลกพุ่งขึ้นไปแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เช่นเดียวกับราคานิกเกิลที่ก้าวผ่านระดับ 100,000 ดอลลาร์ต่อหนึ่งตันเป็นครั้งแรกในวันอังคารด้วย
คาร์ลอส ตาวาเรส ผู้บริหารของบริษัทรถยนต์ สเตลแลนติส (Stellantis) ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 4 ของโลก กล่าวว่า ความท้าทายที่ถาโถมเข้าใส่บริษัทรถยนต์ต่าง ๆ นั้น มีตั้งแต่ราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น ต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น ตลอดจนปัญหาห่วงโซ่อุปทานและการขาดแคลนชิปคอมพิวเตอร์
ผู้บริหารผู้นี้เชื่อว่า หากปัญหาขาดแคลนชิปคอบพิวเตอร์เริ่มคลี่คลายก็จะช่วยลดแรงกดดันด้านต้นทุนต่อผู้ผลิตรถยนต์ได้บ้าง แต่เขาไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นได้ในปีนี้
ทั้งนี้ รัสเซียคือผู้ผลิตอะลูมิเนียมรายใหญ่ของโลก โดยมีสัดส่วนการผลิตราว 6% ของปริมาณอะลูมิเนียมทั้งหมดในตลาดโลก
ผู้ผลิตรถยนต์ในยุโรป รวมทั้ง โฟล์คสวาเกน (Volkswagen) และ บีเอ็มดับเบิลยู (BMW) ของเยอรมนี คือกลุ่มที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด เพราะต่างเป็นผู้นำเข้าวัตถุดิบและชิ้นส่วนรถยนต์รายใหญ่ทั้งจากรัสเซียและยูเครน ซึ่งรวมถึง อะลูมิเนียม นิกเกิล ไทเทเนียม เหล็ก และพัลลาเดียม
แอนเดรียส เวลเลอร์ ซีอีโอของบริษัท อะลูไดน์ (Aludyne) ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์รายใหญ่ในสหรัฐฯ กล่าวว่า บริษัทสาขาในยุโรปต้องจ่ายค่าอะลูมิเนียมเพิ่มขึ้นถึง 60% ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ทำให้ต้นทุนของบริษัทเพิ่มขึ้นหลายร้อยล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้เขาต้องผลักภาระบางส่วนไปให้กับลูกค้า และนั่นหมายถึงราคารถยนต์ที่สูงขึ้น
บริษัทวิจัยด้านการตลาด LMC และ J.D. Power รายงานว่า เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ราคาเฉลี่ยของรถยนต์ใหม่ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 44,460 ดอลลาร์ หรือราว 1.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.5% จากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว
- ที่มา: รอยเตอร์
