ทูตสหรัฐฯ ประจำยูเอ็น ระบุอเมริกาไม่จำเป็นต้องเดินนโยบายกับเมียนมาเหมือนเดิม

U.S. Ambassador to the United Nations Nikki Haley is interviewed by VOA contributor Greta Van Susteren (not pictured) in New York, Jan. 17, 2018. (R. Taylor/VOA)

WATCH: Full interview with U.S. Ambassador to the U.N. Nikki Haley

Your browser doesn’t support HTML5

VOA Interview: US Ambassador Haley on Koreas, Palestinians, Rohingya

U.S. Ambassador to the United Nations Nikki Haley spoke with VOA contributor Greta Van Susteren on Wednesday in New York.

นิคกี้ เฮลีย์ ทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ ให้สัมภาษณ์กับนักข่าววีโอเอว่า รัฐบาลอเมริกันไม่จำเป็นต้องยึดตามแนวทางเดิมสมัยอดีตประธานาธิบดี โอบามาเรื่องความสัมพันธ์กับเมียนมา

ตั้งแต่ปีที่แล้ว สหประชาชาติวิจารณ์การปราบปรามชนกลุ่มน้อยชาวโรฮิงจะด้วยวิธีการรุนแรงของกองทัพรัฐบาลเมียนมา ว่าเป็นตัวอย่างกรณีศึกษาของ 'การกวาดล้างทางชาติพันธุ์' (Ethic Cleansing)

ความรุนแรงที่เริ่มขึ้นจากการปะทะกันระหว่างชาวโรฮิงจะเเละเจ้าหน้าที่รัฐในแคว้นยะไข่เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ทำให้ชาวโรฮิงจะที่นับถือศาสนามุสลิม 650,000 คนอพยพหนีความรุนแรงไปยังบังคลาเทศ

ทูตนิคกี้ เฮลีย์ กล่าวว่า แผนส่งชาวโรฮิงจะกลับมายังเมียนมาต้องเน้นเรื่องการหาสถานที่ที่ปลอดภัยให้คนเหล่านี้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า สหรัฐฯจะกลับมาใช้มาตรการลงโทษเมียนมาอีกครั้งหรือไม่ เธอกล่าวว่าสหรัฐฯ จะพิจารณาถึงทุกปัจจัยที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ในช่วงคืนวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นของเมียนมา มีผู้เสียชีวิต 7 คน จากการประทะกันของประชาชนกับตำรวจที่แคว้นยะไข่

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากประชาชนอย่างน้อย 4,000 คน รวมตัวกันล้อมรอบสถานที่ทำการของรัฐยะไข่ ไม่นานหลังเสร็จพิธีรำลึกการสิ้นสุดอาณาจักรอาระกันของเมียนมา ซึ่งเป็นอาณาจักรเก่าแก่ในแคว้นยะไข่

เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ในตอนแรกตำรวจพยายามสลายฝูงชนด้วยการยิงกระสุนยางเตือน แต่ไม่ประสบความสำเร็จจึงต้องปราบปรามด้วยกระสุนจริง