นักเรียนอเมริกันทำคะแนนวิชาคณิตศาสตร์และการอ่านต่ำกว่ามาตรฐาน

Test scantron sheet

ผลคะแนนจาก Nation’s Report Card หรือ สมุดพกแห่งชาติ ที่เผยแพร่ออกมาเมื่อปลายเดือนตุลาคมแสดงให้เห็นว่า นักเรียนอเมริกันระดับเกรด 4 หรือเทียบเท่าประถมศึกษาปีที่ 4 และระดับเกรด 8 หรือเทียบเท่ามัธยมศึกษาปีที่ 2 ส่วนใหญ่ทำคะแนนได้ไม่ดีในการทดสอบวิชาคณิตศาสตร์และการอ่าน

โดยในระดับประเทศนั้น นักเรียนเกรด 8 ของอเมริกาทำคะแนนวิชาคณิตศาสตร์และการอ่านได้ต่ำกว่ามาตรฐาน เช่นเดียวกับนักเรียนเกรด 4 ที่คะแนนของทั้งสองวิชานี้ก็ลดลงด้วยเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้นักเรียนเกรด 8 ที่มีความเชี่ยวชาญทั้งในการอ่านและวิชาคณิตศาสตร์มีเพียง 33% เท่านั้น ความเชี่ยวชาญในที่นี้หมายถึงการมีทักษะในวิชานั้นๆ คือราว 33% ของนักเรียนเกรด 4 เชี่ยวชาญด้านการอ่าน และมีเพียงกว่า 40% เท่านั้นที่ถือว่ามีความเชี่ยวชาญในวิชาคณิตศาสตร์

Betsy DeVos รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯ กล่าวว่าผลการทดสอบในระดับประเทศโดยรวมแสดงว่าความสำเร็จทางการศึกษาของนักเรียนอเมริกันอยู่ในขั้นวิกฤติ และว่าการเพิ่มเงินให้กับโรงเรียนรัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ แต่ควรมีโรงเรียนที่เป็นทางเลือกสำหรับนักเรียนเพิ่มมากขึ้น

DeVos กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าเด็กอเมริกันยังคงทำคะแนนได้ต่ำกว่ามารตรฐาน เมื่อเทียบกับนักเรียนระดับชั้นเดียวกันในประเทศอื่นๆ แต่ด้วยความมีเสรีภาพทางการศึกษาจะทำให้นักเรียนชาวอเมริกันสามารถแข่งขันกับเด็กนักเรียนประเทศอื่นๆ ได้

Scott Sargrad แห่ง Center for American Progress ซึ่งเป็นผู้เขียนบทความในเวบไซต์ Forbes.com เกี่ยวกับการศึกษาในระดับชั้นอนุบาลจนถึงระดับมัธยมเกรด 12 หรือ K-12 กล่าวว่า แนวคิดของ DeVos เป็นเรื่องที่ผิด เพราะจริงๆ แล้วเงินมีความสำคัญในเรื่องการศึกษา และว่าคะแนนสอบของนักเรียนอเมริกันที่ลดลงนั้น เป็นเพราะการจัดงบประมาณด้านการศึกษาลดลงหลังจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่เมื่อปีค.ศ. 2008 และค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในเกือบครึ่งหนึ่งของประเทศยังไม่กลับคืนสู่สภาวะปกติ

Michael Petrilli ประธานกลุ่มปฏิรูปการศึกษาสถาบัน Thomas Fordham เห็นด้วยกับเรื่องนี้ และชี้ว่า ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าคะแนนในการทดสอบของเด็กนักเรียนนั้นเลื่อนขึ้นเลื่อนลงตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศ

นักเรียนอเมริกันทำคะแนนวิชาคณิตศาสตร์ได้ดีมากในช่วงทศวรรษที่ 1990 และ 2000 แต่หลังจากนั้นก็มีการพัฒนาขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนคะแนนการอ่านเพิ่มขึ้นเล็กน้อยตั้งแต่เริ่มมีการทดสอบเมื่อปี 1992