สหรัฐฯ กล่าวหาอิหร่านว่าเตรียมการโจมตีทั่วตะวันออกกลาง

FILE - Acting Defense Secretary Patrick Shanahan talks to reporters at the Pentagon, March 18, 2019.

รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แพท แชนาแฮน และเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงคนอื่นๆ เตือนว่า อิหร่านเตรียมพร้อมก่อการโจมตีทั่วตะวันออกกลาง โดยมุ่งเป้าไปที่สหรัฐฯ และพันธมิตร ทำให้สหรัฐฯ ต้องตัดสินใจส่งทหารเข้าไปเสริมในตะวันออกกลาง

รมต.แชนาแฮน กล่าวกับผู้สื่อข่าวขณะกำลังเดินทางไปร่วมประชุมด้านความมั่นคงประจำปี แชงกรีลา ที่สิงคโปร์ ว่ามีรายงานข่าวกรองที่ระบุถึงภัยคุกคามอย่างผิดปกติจากอิหร่านในตะวันออกกลาง ซึ่งตนเชื่อว่าเป็นรายงานที่เชื่อถือได้

ขณะเดียวกันที่กรุงวอชิงตัน ประธานคณะผู้บัญชาการเหล่าทัพร่วมของสหรัฐฯ พลเอกโจเซฟ ดันฟอร์ด ยืนยันว่า มีข่าวกรองที่ระบุถึงการรณรงค์เพื่อเตรียมการโจมตีในหลายพื้นที่ ตลอดจนภัยคุกคามในรูปแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ตั้งแต่เยเมน ไปจนถึงอิรัก และแถบอ่าวเปอร์เซีย

FILE - U.S. Joint Chiefs Chairman Gen. Joseph Dunford is pictured in the East Room of the White House in Washington, June 18, 2018.

พลเอกดันฟอร์ด กล่าวอ้างการก่อวินาศกรรมต่อเรือขนส่งน้ำมันนอกชายฝั่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมทั้งการโจมตีด้วยโดรนและจรวดไม่ไกลจากสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงเตหะราน ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลอิหร่านอยู่เบื้องหลังเช่นกัน

และในวันพุธเช่นกัน นายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของทำเนียบขาว กล่าวขณะเยือนกรุงอาบูดาบี ว่าอิหร่านคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีนอกชายฝั่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อย่างแทบไม่ต้องสงสัย

ต่อมาโฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ปฏิเสธข้อกล่าวหาของนายโบลตันว่าเป็นเรื่อง "ไร้สาระ"

ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่าน รุนแรงยิ่งขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศการตัดสินใจที่จะตัดการส่งออกน้ำมันของอิหร่านลงทั้งหมด และเพิ่มมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจอื่นๆ ต่ออิหร่าน พร้อมไปกับการเพิ่มกิจกรรมทางทหารในตะวันออกกลาง

เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่า สหรัฐฯ จะส่งทหารอีก 1,500 คนไปสมทบกับกองทัพอเมริกันในตะวันออกกลาง เพื่อป้องกันภัยคุกคามจากอิหร่าน

ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพสหรัฐฯ ผู้หนึ่ง ชี้แจงว่า จำนวนทหาร 1,500 นาย ที่ ปธน.ทรัมป์ระบุนั้น ประกอบด้วย 900 นายที่เป็นทหารซึ่งส่งไปใหม่ และ 600 นายเป็นทหารที่ประจำการอยู่ที่นั่นอยู่แล้ว แต่ยืดระยะเวลาประจำการออกไป​

และก่อนหน้านี้ กองเรือที่ 5 ของสหรัฐฯ เพิ่มการลาดตระเวณ และการปฏิบัติการทางนาวีในทะเลอาราเบียน และกองทัพอเมริกันยังส่งเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Abraham พร้อมด้วยเรือ USS Arlington และเครื่องบินทิ้งระเบิด B-52 ไปประจำการในตะวันออกกลางด้วย

FILE - Iranian Foreign Minister Mohammad Javad Zarif speaks at the Asia Society in New York, April 24, 2019.

เกี่ยวกับเรื่องนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่าน โมฮัมหมัด จาว้าด ชารีฟ กล่าวหาสหรัฐฯ ว่ากระหายสงคราม และว่าการที่รัฐบาล ปธน.ทรัมป์ นำมาตรการลงโทษกลับมาใช้กับอิหร่านนั้น คือ "การก่อการร้ายทางเศรษฐกิจ"