The Internet of Things (IoT) คืออะไร? มีความสำคัญต่ออนาคตของเราอย่างไร?

Your browser doesn’t support HTML5

The Internet of Things คืออะไร

อุปกรณ์ทางเทคโนโลยีทุกวันนี้ ตั้งแต่ smart phone, smartwatch ไปจนถึงเครื่องใช้ต่างๆ ที่ดูจะเต็มไปด้วยภูมิปัญญา สามารถเชื่อมโยงระหว่างกันผ่านทางอินเทอร์เน็ต เครือข่ายในลักษณะนี้มีชื่อเรียกว่า ‘The Internet of Things ย่อๆ ว่า IoT

เมื้อเร็วๆ นี้ Jordi Ortega ขับรถเพื่อทดลอง app ในมือถือที่บริษัทประกันพัฒนาขึ้นมาใช้ติดตามดูพฤติกรรมการขับรถของลูกค้า app ในมือถือนี้มีชื่อเรียกว่า ‘Driver Feedback’ ซึ่งใช้ระบบ GPS ควบกับมาตรวัดความเร่ง และนอกจากเก็บข้อมูลในขณะที่รถเคลื่อนที่แล้ว app นี้ยังให้คะแนนคนขับรถด้วย

การเชื่อมโยงระหว่าง app ซึ่งแปรมือถือให้เป็นอุปกรณ์จับความเคลื่อนไหวให้กับแผ่นเซ็นเซอร์ในถนน เพื่อวัดปริมาณการจราจรและอัตราความเร็วของรถ โดยผ่านทางอินเทอร์เน็ต คือส่วนหนึ่งของ IoT หรือ The Internet of Things

Bhaskar Krishnamachari ผู้เชี่ยวชาญ IoT ที่มหาวิทยาลัย Southern California บอกว่า IoT จะเป็นประโยชน์กับนักวางผังเมืองมาก เพราะอุปกรณ์เซ็นเซอร์นี้วัดได้ทุกอย่าง ตั้งแต่มลภาวะสิ่งแวดล้อมไปจนถึงสภาพถนน โครงสร้างพื้นฐานของอาคารและสะพาน ซึ่งจะช่วยให้ผู้กำหนดและดำเนินนโยบายเข้าใจโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจได้ดีขึ้น

ในขณะเดียวกัน IoT ยังสามารถช่วยให้เราเข้าใจตัวเราเองได้ดีขึ้นด้วย ตัวอย่างเช่น กระจกดิจิทัลของห้องแล็บ Memomi ซึ่งมีกล้องติดไว้ข้างบน คอยจับภาพผู้ส่องกระจกได้ทุกแง่มุม แถมยังเปลี่ยนสีเสื้อผ้าที่สวมใส่ได้ด้วย และเจ้าตัวสามารถส่งวิดีทัศน์ที่กล้องถ่ายไว้ ให้เพื่อนฝูงดูเพื่อออกความคิดเห็นติชมได้อย่างรวดเร็วทันใจ

Salvador Nissi Vilcovsky ผู้ก่อตั้ง MemoMi บอกว่า ในอนาคตไม่ไกล กระจกจะเติมแต่งเครื่องประดับให้ผู้ส่องกระจก จะได้ทันโลกทันแฟชั่นล่าสุด ไม่ว่าจะออนไลน์หรือที่วางขายตามร้าน

นักประดิษฐ์และนักธุรกิจผู้นี้เชื่อว่า อิทธิพลของดิจิทัลในวงการค้าปลีก มีแต่จะเพิ่มขึ้น เพราะไม่ว่าจะเป็นใคร และอยู่ที่ไหนก็มีอุปกรณ์ดิจิทัลถือติดมือกันแทบทุกคนแล้ว

Bridget Karlin ของบริษัท Intel ผู้ผลิตชิพคอมพิวเตอร์รายใหญ่ของโลกให้ข้อมูลที่สนับสนุนแนวคิดนี้ว่า ภายในห้าปีข้างหน้า จะมีอุปกรณ์ดิจิทัลให้ได้ใช้กัน 50,000 ล้านชิ้น เทียบกับจำนวนประชากรโลกแล้ว หมายความว่า แต่ละคนจะมีอุปกรณ์ดิจิทัลใช้ถึง 6 ชิ้น

อย่างไรก็ตาม Bhaskar Krishnamachari ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน Internet of Things เตือนว่า การเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจเข้ากับทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆ ตัวเรานั้น จะต้องแน่ใจว่าจะไม่มีใครเจาะล้วงระบบโดยที่เราไม่รู้หรือไม่ได้อนุญาตให้ทำเช่นนั้น

และสำหรับผู้ที่สงสัยว่า Jordi Ortega สอบขับรถผ่านหรือไม่นั้น app ในมือถือให้คะแนนเขา 88 รวมทั้งแนะนำให้เขาหัดเบรครถให้มากขึ้นด้วย