'ซาอุดิ อะแรมโก' กำไรร่วงแรง 73% หลังความต้องการน้ำมันโลกลดต่อเนื่อง

FILE - Saudi Aramco logo is pictured at the oil facility in Khurais, Saudi Arabia, Oct. 12, 2019.

Your browser doesn’t support HTML5

Business News


บริษัทพลังงาน ซาอุดิ อะแรมโก ของทางการซาอุดิอาระเบีย เปิดเผยในวันอาทิตย์ว่า ผลกำไรในไตรมาสที่สองของปีนี้ลดลง 73 เปอร์เซ็นต์ สืบเนื่องจากราคาน้ำมันดิบโลกลดลงจากการระบาดของโคโรนาไวรัสทั่วโลก

บริษัทพลังงานรายใหญ่แห่งนี้ รายงานผลกำไรสุทธิ 6,600 ล้านดอลลาร์ระหว่างเดือน เมษายน ถึง เดือนมิถุนายน ซึ่งลดลงจากระดับ 24,700 ล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ตัวเลขดังกล่าวเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ แต่ก็ยังสูงกว่าตัวเลขผลประกอบการของบริษัทคู่แข่งรายใหญ่อื่น ๆ ได้แก่ BP, Chevron, ExxonMobil, Royal Dutch Shell และ Total ที่มียอดขาดทุนรวมกัน 53,000 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสเดียวกัน

เมื่อพิจารณาผลกำไรสุทธิในช่วงครึ่งปีแรก ซาอุดิ อะแรมโก มีกำไร 23,200 ล้านดอลลาร์ ลดลง 50.5 เปอร์เซ็นต์ จากช่วงครึ่งปีแรกของปีที่แล้ว ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการน้ำมันที่ลดลงทั่วโลก

รัฐบาลซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดในโลก ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบตกต่ำและปริมาณการผลิตที่ลดลง ซึ่งคาดว่าจะส่งผลต่อแผนปฏิรูปเศรษฐกิจของซาอุฯ ของเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน

โดยปริมาณการผลิตน้ำมันของซาอุฯ ลดลงอยู่ที่ระดับ 7.5 ล้านบาร์เรลต่อวันเมื่อเดือนมิถุนายน เทียบกับตัวเลขเฉลี่ย 10 ล้านบาร์เรลต่อวันเมื่อปีที่แล้ว

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซาอุดิ อะแรมโก เพิ่งถูกบริษัทเทคโนโลยี แอปเปิล แซงหน้าขึ้นมาเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก ด้วยมูลค่าที่แตกต่างกันราว 140,000 ล้านดอลลาร์ระหว่างสองบริษัท