ผู้ว่าการรัฐโอกลาโฮมา เควิน สติทท์ เปิดเผยในวันพุธว่าตนติดเชื้อโคโรนาไวรัส และขณะนี้กำลังกักตัวเองอยู่ที่บ้าน ถือเป็นผู้ว่าการรัฐคนแรกในสหรัฐฯ ที่ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ ท่ามกลางการระบาดอย่างหนักในหลายรัฐทั่วอเมริกา
ผู้ว่าฯ สติทท์ วัย 48 ปี กล่าวว่าตนเริ่มมีอาการไม่สบายตัวมาตั้งแต่วันอังคาร จึงได้ทำการตรวจหาเชื้อและพบว่าติดโควิด-19 ขณะที่ภรรยาและบุตรที่ทำการตรวจวันเดียวกันนั้นไม่พบเชื้อแต่อย่างใด
ผู้ว่ารัฐโอกลาโอมาผู้นี้คือหนึ่งในผู้สนับสนุนให้มีการเปิดเมืองและภาคธุรกิจต่าง ๆ ตั้งแต่เนิ่น ๆ และยังปฏิเสธคำสั่งให้ประชาชนสวมหน้ากากในที่สาธารณะ ขณะที่ตัวเขาเองก็ไม่สวมหน้ากากบ่อยนักเช่นกัน
ผู้ว่าฯ สติทท์ แถลงข่าวผ่านวิดีโอออนไลน์ในวันพุธว่า เราสนับสนุนสิทธิของปัจเจกชนในเรื่องการสวมหน้ากาก ซึ่งนั่นคือการสร้างปัญหายุ่งเหยิงมากมายตามมา
เขายังได้เข้าร่วมในการปราศรัยหาเสียงของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่เมืองทัลซา เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าอาจเป็นการชุมนุมที่ทำให้เกิดการแพร่กระจายของโคโรนาไวรัสในวงกว้างในรัฐโอกลาโฮมา แต่นายสติทท์มั่นใจว่าตนไม่ได้ติดเชื้อมาจากการปราศรัยหาเสียงดังกล่าวซึ่งจัดขึ้นเมื่อเกือบหนึ่งเดือนมาแล้ว
เมื่อต้นปีนี้ ผู้ว่าฯ สติทท์ ตกเป็นเป้าของการวิจารณ์ หลังจากที่เขาทวีตรูปที่เขาพาลูก ๆ ไปรับประทานอาหารที่ร้านซึ่งมีลูกค้าคับคั่ง
ขณะนี้ รัฐโอกลาโฮมามีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นสถิติใหม่สองวันติดต่อกัน ที่จำนวน 1,075 คน และผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่มากกว่า 22,000 คน
ส่วนที่รัฐฟลอริดา มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอีกมากกว่า 10,000 คนในวันอังคาร ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 300,000 ราย เสียชีวิตแล้ว 4,626 ราย
โรงพยาบาลทั่วรัฐฟลอริดาต่างรายงานปัญหาขาดแคลนเตียงที่จะรองรับผู้ป่วย โดยเฉพาะในแถบทางใต้ของรัฐ โดยขณะนี้มีผู้ป่วยโควิด-19 อยู่ตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ในรัฐฟลอริดา 8,276 คน
จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในรัฐฟลอริดา เกิดขึ้นในขณะที่สวนสนุกดิสนีย์เวิลด์ที่นครออร์แลนโด เพิ่งเปิดทำการอีกครั้งในสัปดาห์นี้ หลังจากปิดยาวมาตั้งแต่เดือนมีนาคม