'ธุรกิจท่องเที่ยว - ไร่องุ่น' อ่วมจากไฟป่าแคลิฟอร์เนีย

The remains of the Signorello Estate winery continue to smolder in Napa, Calif., Oct. 10, 2017.

สถานการณ์ไฟป่าทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนียยังน่าเป็นห่วง ล่าสุดคร่าชีวิตผู้คนอย่างน้อย 31 ราย สูญหายหลายร้อยชีวิต รวมทั้งกระทบธุรกิจท่องเที่ยวและการผลิตไวน์

นาย Scott McLean โฆษกกรมป่าไม้และป้องกันอัคคีภัยรัฐแคลิฟอร์เนีย เปิดเผยว่า ขณะนี้ไฟป่า 22 จุด กินพื้นที่ 4 แสนไร่ เผาทำลายบ้านเรือนและธุรกิจทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนียไปอย่างน้อย 3,500 แห่ง

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 8 พันนายทั้งในพื้นที่ และหน่วยเฉพาะกิจจากแคนาดาและออสเตรเลีย เข้าควบคุมสถานการณ์ได้เพียง 22% จากพื้นที่ประสบไฟป่าเท่านั้น

ทั้งนี้ มีรายงานผู้เสียชีวิตจากไฟป่าอย่างน้อย 31 ราย และคาดว่ามีผู้สูญหายราว 400-500 คนจากไฟป่าครั้งใหญ่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย

ด้านผู้ประกอบการในเขตโซโนมา และนาปา เคาน์ตี้ ทางตอนเหนือของเมืองซานฟรานซิสโก เปิดเผยว่า นักท่องเที่ยวทยอยยกเลิกแผนท่องเที่ยวในเดือนพฤศจิกายน จากความกังวลสถานการณ์ไฟป่าที่ยังไม่คลี่คลาย

โดยเฉพาะย่าน Napa Valley ดึงดูดนักท่องเที่ยวเฉลี่ย 3 ล้าน 5 แสนคนต่อปี และนักท่องเที่ยวใช้จ่ายเฉลี่ย 402 ดอลลาร์ต่อวัน

เขตโซโนมาและนาปา เคาน์ตี้ เป็นเขตผลิตไวน์และอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้อง ทั้งทัวร์ชมไร่องุ่นและชิมไวน์ ธุรกิจรถลีมูซีน ธุรกิจห้องพักและรีสอร์ทตากอากาศ ซึ่งสร้างรายได้มหาศาลให้กับชุมชน ที่สร้างรายได้กว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเกือบ 7 หมื่นล้านบาทต่อปี

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการในเขตโซโนมา และนาปา เคาน์ตี้ ยังเชื่อมั่นว่า ไฟป่าจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจและการท่องเที่ยวได้เพียงระยะสั้นเท่านั้น