‘ไบเดน’ เดินทางถึงยุโรป เตรียมหารือ ‘ปูติน’ และชาติพันธมิตร

President Joe Biden salutes while boarding Air Force One as he departs on travel to attend the G-7 Summit in England, the first foreign trip of his presidency, from Joint Base Andrews, Maryland, June 9, 2021.

ในวันพุธ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เดินทางไปถึงยุโรป ซึ่งถือเป็นการเยือนต่างประเทศครั้งแรกของไบเดนในฐานะผู้นำสหรัฐฯ เพื่อหารือกับผู้นำชาติตะวันตกต่าง ๆ ก่อนที่จะหารือกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียในระหว่างการประชุมสุดยอดที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในสัปดาห์หน้า

ประธานาธิบดีไบเดนระบุว่า จุดประสงค์ของการเดินทางเยือนครั้งนี้คือการกระชับความสัมพันธ์กับพันธมิตร รวมถึงส่งสัญญาณย้ำเตือนไปยังจีนและรัสเซียว่าสหรัฐฯ มีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับยุโรป

ผู้นำสหรัฐฯ ยังกล่าวด้วยว่า เขาจะประกาศยุทธศาสตร์วัคซีนต้านโควิด-19 แผนใหม่ ทั้งนี้ แม้สหรัฐฯ จะฉีดวัคซีนให้ประชาชนวัยผู้ใหญ่ไปเกินครึ่งแล้ว แต่ประเทศยากจนในแอฟริกาและที่อื่น ๆ กลับฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้เป็นอัตราส่วนน้อยกว่ามาก

ทำเนียบขาวระบุว่า การเดินทางเยือนต่างประเทศของไบเดนครั้งนี้ จะเน้นย้ำพันธกิจของสหรัฐฯ ในการฟื้นฟูประชาธิปไตยทั่วโลก ร่วมจัดกฎระเบียบสำหรับศตวรรษที่ 21 ปกป้องคุณค่าของประเทศ และรับมือกับความท้าทายครั้งใหญ่ของโลก

President Joe Biden talks to reporters prior to boarding Air Force One as he departs on travel to attend the G-7 Summit in England, the first foreign trip of his presidency, from Joint Base Andrews, Maryland, June 9, 2021.

ผู้นำสหรัฐฯ หารือกับนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ ในวันพฤหัสบดี ก่อนจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดจี-7 ที่เขตปกครองคอร์นวอลล์ในวันศุกร์จนถึงวันอาทิตย์

ประธานาธิบดีไบเดนและสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งจิล ไบเดน มีกำหนดการเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ที่พระราชวังวินด์เซอร์ ก่อนเข้าร่วมการประชุมสุดยอดองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต้ ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ในวันจันทร์

ที่กรุงบรัสเซลส์ เขายังมีกำหนดการหารือกับประธานาธิบดีตุรกีเรจิป เทย์ยิป เออร์โดวาน พันธมิตรนาโต้ โดยก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ไม่พอใจที่ตุรกีมีนโยบายซื้อระบบป้องกันภัยทางอากาศจากรัสเซีย ซึ่งไม่สามารถทำงานกับระบบของนาโต้ได้

ในวันอังคาร ผู้นำสหรัฐฯ มีกำหนดเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชาธิบดีฟีลิปป์แห่งเบลเยียม และพบปะกับนายกรัฐมนตรีอเล็กซานเดอร์ เดอ ครู ของเบลเยียม เช่นเดียวกับเข้าร่วมการประชุมสุดยอดสหรัฐฯ-สหภาพยุโรป

ในวันพุธ ประธานาธิบดีไบเดนมีกำหนดพบปะกับประธานาธิบดีกาย พาร์เมลิน ของสวิตเซอร์แลนด์ ที่นครเจนีวา ก่อนจะหารือกับผู้นำรัสเซีย ซึ่งจะถือเป็นครั้งแรกที่ผู้นำทั้งสองพบปะกันนับตั้งแต่ไบเดนดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ

ไบเดนระบุว่า เขาหวังว่าการเดินทางเยือนต่างประเทศครั้งนี้จะช่วยนำเสนออีกโฉมหน้าหนึ่งของสหรัฐฯ ที่แตกต่างจากยุคของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เคยวิจารณ์ว่า พันธมิตรนาโต้มักไม่ลงขันด้านการทหารเป็นจำนวนเงินที่มากพอ

ทั้งนี้ ทำเนียบขาวระบุว่า ผู้นำสหรัฐฯ จะยืนยันพันธกิจของสหรัฐฯ ต่อนาโต้ ความมั่นคงข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก และการป้องกันภัยคุกคามร่วมกัน

ทำเนียบขาวยังระบุด้วยว่า ไบเดนจะกลับมาเน้นย้ำความยึดมั่นของสหรัฐฯ ต่อความร่วมมือแบบพหุภาคี การทำงานเพื่อขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของสหรัฐฯ ด้านสาธารณสุข การฟื้นฟูเศรษฐกิจ และการเติบโตอย่างครอบคลุมในระหว่างการประชุมสุดยอดจี-7 รวมถึงแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับประเทศประชาธิปไตยประเทศอื่นๆ ด้วย

FILE - In this March 10, 2011 file photo, then Vice President Joe Biden, left, shakes hands with Russian Prime Minister Vladimir Putin in Moscow, Russia.

‘ไบเดน’ เตรียมพบ ‘ปูติน’

ที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างประธานาธิบดีไบเดนกับประธานาธิบดีปูตินนั้นไม่ราบรื่นนัก เมื่อเทียบกับในสมัยอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ผู้ซึ่งมิได้กล่าวหาเพื่อเอาผิดประธานาธิบดีปูติน จากกรณีที่รัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปีค.ศ. 2016 เพื่อช่วยให้ทรัมป์ชนะเลือกตั้ง

ในทางตรงกันข้าม ไบเดนได้กล่าวกับปูตินทางโทรศัพท์ว่า สหรัฐฯ เห็นว่ารัสเซียมีส่วนรับผิดชอบต่อการแทรกแซงการเลือกตั้ง การโจมตีไซเบอร์ครั้งใหญ่ต่อหน่วยงานรัฐของสหรัฐฯ และการวางยาพิษอเล็กเซ นาวาลนี ผู้นำฝ่ายค้านรัสเซีย โดยทั้งรัสเซียและสหรัฐฯ ได้ขับไล่นักการทูตบางส่วนของอีกฝ่ายออกจากเมืองหลวงของตนในช่วงที่ผ่านมา

ผู้นำสหรัฐฯ ยังกล่าวผ่านการสัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ด้วยว่า เขาเห็นว่าปูตินเป็น “นักฆ่า” โดยทางผู้นำรัสเซียออกมาตอบโต้ว่า สหรัฐฯ เองได้สังหารชาวอเมริกันพื้นเมืองจำนวนมากในช่วงตั้งรกรากเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 18 และยังละเมิดสิทธิของชนกลุ่มน้อยในประเทศมาโดยตลอดเช่นกัน