แอมะซอน พร้อมเข้าซื้อสตูดิโอ ‘เอ็มจีเอ็ม’ – ขยายงานสู่ธุรกิจบันเทิงฮอลลีวู้ด

FILE PHOTO: Smartphone with Amazon logo is seen in front of displayed MGM logo in this illustration taken

Your browser doesn’t support HTML5

Business News


บริษัท แอมะซอน ผู้นำธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ของสหรัฐฯ ประกาศขยายกิจการของตน ด้วยการเข้าซื้อธุรกิจผลิตภาพยนตร์และความบันเทิง ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ ภาพยนตร์สายลับ ‘เจมส์ บอนด์’ และภาพยนตร์ตลกโรแมนติก ‘สาวบลอนด์หัวใจดี๊ด๊า’ (Legally Blonde)

รายงานข่าวระบุว่า แอมะซอน ทุ่มเงิน 8,450 ล้านดอลลาร์ เข้าซื้อธุรกิจสตูดิโอผลิตภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ “เอ็มจีเอ็ม” (MGM) ไปแล้ว โดยแผนเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ได้ชื่อว่ามีมูลค่าสูงที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ที่บริษัทค้าปลีกแห่งนี้ได้ทำมา หลังจากควักเงินเกือบ 14,000 ล้านดอลลาร์เพื่อซื้อกิจการซุปเปอร์มาร์เก็ต โฮลฟู้ดส์ (Whole Foods) ไปเมื่อปี ค.ศ. 2017

การเข้าซื้อกิจการของแอมะซอนรอบนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของบริษัทที่จะขยายธุรกิจสตรีมมิ่ง (Streaming) ของตน เพื่อสู้กับคู่แข่งอย่าง เน็ตฟลิกซ์ (Netflix) และ ดิสนีย์-พลัส (Disney+) รวมทั้ง AT&T และดิสคัฟเวอรี (Discovery) ที่เพิ่งประกาศควบรวมกิจการสื่อเข้าด้วยกันเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา และจะนำไปสู่ธุรกิจสตรีมมิ่งชั้นนำรายใหม่ที่นำเสนอช่อง HGTV, CNN, Food Network และ HBO ด้วย

ขณะที่ แอมะซอนไม่ยอมเปิดเผยว่า มีผู้ใช้บริการ Prime Video อยู่เท่าไหร่ ข้อมูลทางธุรกิจของบริษัทแห่งนี้ชี้ว่า ปัจจุบัน แอมะซอน มีสมาชิกกว่า 200 ล้านคนที่สามารถรับชมช่องนี้ได้ เพราะการสมัครบริการ Prime membership เพื่อให้ได้รับออเดอร์ที่สั่งเร็วขึ้นและเพื่อรับสิทธิประโยชน์อื่นๆ ด้วย

นอกจาก Prime Video แล้ว แอมะซอน ยังมีบริการสตรีมมิ่งแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย ที่ชื่อ IMDb TV ที่ทำรายได้จากการลงโฆษณาทางแพลตฟอร์มนี้เป็นหลัก

สำหรับ สตูดิโอ “เอ็มจีเอ็ม” นั้น ธุรกิจนี้คือหนึ่งในผู้ผลิตภาพยนตร์ที่เก่าแก่ที่สุดของฮอลลีวู้ด โดยก่อตั้งมาตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ. 1924 และมีการขยายงานมาผลิตรายการโทรทัศน์ที่ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากผู้ชมด้วย โดยเฉพาะ รายการเรียลลิตี้ทีวี เช่น Shark Tank และ The Real Housewives of Beverly Hills เป็นต้น

ส่วน แอมะซอน นั้น ตัวบริษัทก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1995 ในรูปของร้านหนังสือออนไลน์ และเติบโตจนปัจจุบันมีมูลค่าสูงถึง 1.6 ล้านล้านดอลลาร์

หากการเข้าซื้อกิจการนี้ได้รับอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลกิจการ แอมะซอน จะกลายมาเป็นธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาก จากระดับที่ได้รับการยอมรับว่าทรงอิทธิพลและมีมูลค่าสูงที่สุดในโลกแห่งหนึ่งอยู่แล้ว