สายการบินขึ้นบัญชี “ห้ามบิน” ผู้โดยสาร 2,000 คน จากโควิด-จลาจลในดีซี

This July 17, 2019 photo shows American Airlines planes at Phoenix Sky Harbor International Airport in Phoenix.

สายการบินอเมริกัน ขึ้นบัญชีห้ามบิน (no-fly lists) ภายในประเทศ มากกว่า 2,000 คน ทั้งจากสถานการณ์การระบาดของโควิด ที่ผู้โดยสารละเมิดมาตรการสวมหน้ากาก บวกกับหลังเหตุวุ่นวายที่ผู้สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ บุกอาคารรัฐสภาเมื่อ 6 มกราคมที่ผ่านมา

สายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส ให้ข้อมูลกับสถานีโทรทัศน์ ABC ว่า เฉพาะในสัปดาห์ที่แล้ว ทางสายการบินขึ้นบัญชีห้ามบินไปอย่างน้อย 60 คน ซึ่งมากกว่าช่วงเวลาปกติ โดยผู้ที่ถูกขึ้นบัญชี no-fly list ส่วนใหญ่ในช่วงนี้ มาจากกลุ่มที่เดินทางด้วยเที่ยวบินเข้าออกกรุงวอชิงตัน ด้วยเหตุผลจากเหตุวุ่นวายทางการเมืองเมื่อต้นเดือนมกราคม

ฝั่ง อแลสกา แอร์ไลน์ส สั่งขึ้นบัญชีผู้โดยสาร 14 คนในเที่ยวบินเดียวกันจากกรุงวอชิงตันมายังนครซีแอตเติล หลังจากผู้โดยสารสิบกว่ารายนี้ไม่ปฏิบัติตามมาตรการสวมหน้ากาก รวมทั้งยังคุกคามลูกเรือบนเที่ยวบินนั้นด้วย

การฝ่าฝืนมาตรการสวมหน้ากากบนเที่ยวบิน ด้วยเหตุผลทางการเมือง เกิดขึ้นไปทั่วอเมริกาในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ และเพิ่มมากขึ้นหลังเหตุจลาจลในกรุงวอชิงตัน

โดยเมื่อ 8 มกราคมที่ผ่านมา มีผู้โดยสารสายการบินอเมริกันแอร์ไลน์ส เที่ยวบินจากกรุงวอชิงตันไปเมืองฟินิกส์ แอริโซนา เผยคลิประหว่างที่กัปตันเครื่องบินขู่ผู้โดยสารว่าจะลงจอดที่แคนซัส หากผู้โดยสารไม่ปฏิบัติตัวตามระเบียบในการเดินทาง ซึ่งทางการสายการบิน ยืนยันว่า กัปตันในเที่ยวบินดังกล่าว ต้องการให้ผู้โดยสารปฏิบัติตามคำแนะนำของลูกเรือและสวมหน้ากากตามนโยบายการโดยสารเครื่องบิน

โดยเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว มีคลิปเหตุการณ์ผู้โดยสารหญิงรายหนึ่งที่เดินทางจากเมืองชาร์ล็อตต์ นอร์ท แคโรไลนามายังกรุงวอชิงตัน ปฏิเสธที่จะสวมหน้ากาก และตะโกนว่า “พวกเผด็จการ” และว่าถ้าไม่ยืนหยัดในเรื่องนี้สถานการณ์จะเลวร้ายลงไปอีก และแน่นอนว่าสตรีรายนี้ก็ถูกขึ้นบัญชีห้ามบินจากเหตุการณ์ดังกล่าว

อีกเหตุการณ์หนึ่ง เกิดขึ้นที่สนามบินนานาชาติโรนัลด์ เรแกน วอชิงตัน แนชันแนล เมื่อกลุ่มผู้โดยสารคุกคามพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินซึ่งเป็นคนผิวสี และพวกเขายังถอดหน้ากากออกและพยายามคุกคามลูกเรือคนอื่นๆ ด้วย

ทางสมาคม Association of Professional Flight Attendants ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลถึงความปลอดภัยของลูกเรือ จากเหตุวุ่นวายในช่วงนี้ ที่ทำให้ลูกเรือและผู้โดยสารรายอื่นๆ ต้องเผชิญหน้าและรับมือกับผู้โดยสารแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวจากแรงจูงใจทางการเมือง

สายการบินยกระดับคุมเข้ม หวั่นเหตุตึงเครียด

สายการบินของอเมริกัน ยกระดับความปลอดภัยเข้ม หวั่นเหตุตึงเครียดสัปดาห์พิธีปฏิญาณตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตามรายงานของ วอลสตรีท เจอร์นัล

สายการบินและท่าอากาศยานทั่วกรุงวอชิงตันและปริมณฑล ยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยเต็มพิกัด เพื่อรับมือกับเหตุรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ ในพิธีปฏิญาณตนรับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ 20 มกราคมนี้

เดลตาแอร์ไลน์ส ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส และอเมริกันแอร์ไลน์ส สั่งห้ามผู้โดยสารที่จะเดินทางมายังกรุงวอชิงตันและพื้นที่ใกล้เคียง นำอาวุธปืนรวมอยู่ในสัมภาระในทุกรูปแบบ และทางอเมริกันแอร์ไลน์ส สั่งห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สำหรับเที่ยวบินจากกรุงวอชิงตันและปริมณฑล เริ่มต้น 16-21 มกราคมนี้ และบังคับการสวมหน้ากากอย่างเคร่งครัด ส่วนอแลสกาแอร์ไลน์ส เตรียมสั่งปรับ 15,000 ดอลลาร์ หากฝ่าฝืนมาตรการของสายการบิน

นอกจากนี้ สายการบินยังเริ่มควบคุมจำนวนตั๋วเครื่องบินของเส้นทางไปกลับกรุงวอชิงตันและปริมณฑล และมีมาตรการให้ต้องนั่งอยู่บนเครื่องราว 1 ชั่วโมงก่อนเครื่องออกตัวและอีก 1 ชั่วโมงหลังจากเครื่องบินออกตัวไปแล้ว สำหรับผู้โดยสารเที่ยวบินทั้งขาเข้าขาออกกรุงวอชิงตัน

ล่าสุดทางสำนักงานควบคุมการบินของรัฐบาลสหรัฐฯ หรือ FAA ออกคำเตือนว่าจะมีบทลงโทษที่รุนแรงต่อใครก็ตามที่พยายามทำลายความปลอดภัยบนเที่ยวบิน โดยมีโทษสูงสุด คือ ปรับไม่เกิน 35,000 ดอลลาร์ และโทษจำคุก

ส่วนทางสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ พยายามผลักดันให้กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (Department of Homeland Security) ขึ้นบัญชีผู้ประท้วงที่บุกอาคารรัฐสภากรุงวอชิงตันเมื่อต้นเดือนมกราคมอยู่ในกลุ่มห้ามบินนี้ของสำนักงานดูแลความปลอดภัยด้านการคมนาคมของสหรัฐฯ หรือ TSA ด้วย