ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง สั่งการให้กองทัพเตรียมพัฒนาสิ่งที่เขาเรียกว่า “ศักยภาพในการต่อสู้ที่มีคุณภาพแบบใหม่” ซึ่งเป็นสิ่งที่นักวิเคราะห์มองว่า เป็นการเน้นย้ำความสนใจในการใช้ปัญญาประดิษฐ์ เทคโนโลยีขั้นสูง และสงครามการข่าวกรอง รวมทั้งอาจเป็นการส่งสัญญาณที่ผู้เชี่ยวชาญเห็นว่า จีนกำลังวางแผนที่จะสร้างกองทัพเรือและเรือดำน้ำไร้คนขับ เพื่อสนับสนุนปฏิบัติการทางทหาร
ผู้นำจีนกล่าวระหว่างการประชุมกองทัพปลดปล่อยประชาชน (People’s Liberation Army-PLA) และกองกำลังตำรวจติดอาวุธประชาชนจีน (Armed Police Force) เมื่อปลายสัปดาห์ก่อน เรียกร้องให้กองทัพปฏิรูปในเชิงลึกยิ่งขึ้นและส่งเสริมนวัตกรรมในการเพิ่มศักยภาพด้านยุทธศาสตร์ โดยมีตัวแทนจากกองทัพหารือในหลายประเด็น ตั้งแต่ระบบไซเบอร์ การใช้ปัญญาประดิษฐ์ ไปจนถึงการพัฒนาและใช้เทคโนโลยีไร้คนขับเพื่อการต่อสู้
ชุง ชี จาก National Policy Foundation ในกรุงไทเป เผยว่า จากถ้อยแถลงของปธน.สี ที่การประชุมและความเห็นของผู้นำจีนในช่วงที่ผ่านมา ชี้ว่า “ศักยภาพในการต่อสู้ที่มีคุณภาพแบบใหม่” นั่นหมายถึงความสามารถในการต่อสู้อันชาญฉลาด “เป้าหมายล่าสุดของผู้นำจีน(สี)คือบรรลุการพัฒนาแบบบูรณาการ ... ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”
ผู้เชี่ยวชาญรายนี้ ยกตัวอย่างการใช้ปัญญาประดิษฐ์ที่กองทัพกำลังมองหาการเร่งความเร็วแห่งการต่อสู้ การร่นเวลาในการทำภารกิจ เช่น การค้นหาเป้าหมาย การโจมตี เช่นเดียวกับปฏิบัติการแบบเร่งด่วน รวมถึงการควบคุมพาหนะไร้คนขับในการสู้รบ
สำหรับมหาอำนาจด้านการทหารแล้ว ใครก็ตามที่สามารถพัฒนารูปแบบการต่อสู้ใหม่ขึ้นมาได้จะเป็นฝ่ายได้เปรียบในการรบ
ในรายงานของสื่อรัฐบาลจีน PLA Daily เมื่อวันอาทิตย์เผยว่า ห่าว จิงเหวิน สมาชิกรัฐสภาจีน ได้กล่าวถึงเทคโนโลยี swarm drone ระบบควบคุมโดรนให้บินร่วมกันเป็นฝูง ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ ซึ่งพัฒนาและนำไปใช้กับความขัดแย้งในภูมิภาคได้อย่างประสบความสำเร็จ รวมทั้งเรียกร้องให้จีนเล็งเห็นความสำคัญของเทคโนโลยีในด้านการทหารมากขึ้น
หลิน อิง-หยู อาจารย์จาก Graduate Institute of International Affairs and Strategic Studies แห่ง Tamkang University ให้สัมภาษณ์กับวีโอเอว่า ศักยภาพในการต่อสู้ที่มีคุณภาพแบบใหม่มุ่งเน้นด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีก็จริง แต่ยากที่จะบอกว่าจะนำไปใช้ในแบบที่ผู้นำจีนต้องการได้อย่างไร
หลิน กล่าวว่า “อันที่จริงแล้ว จีนเองก็พยายามหาวิธีที่จะใช้มัน และไม่สามารถหาจุดที่ชัดเจนได้ว่าสิ่งความสามารถใหม่นี้คืออะไรบ้าง หากจีนต้องการจะเข้าสู่สมรภูมิด้านเทคโนโลยีในอนาคต การฝึกฝนกองทัพและเฟ้นหาผู้มีทักษะจะต้องแตกต่างจากในอดีตโดยสิ้นเชิง”
นอกจากนั้นแล้ว อีกความท้าทายของกองทัพจีนก็คือ ผู้มีทักษะล้ำสมัยเหล่านี้มีทางเลือกไปร่วมงานกับบริษัทต่างชาติหรือบริษัทเอกชนมากกว่า และอาจไม่อยากเข้าร่วมกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน
ระหว่างการประชุมเมื่อสัปดาห์ก่อน ผู้นำจีนยังเน้นถึงความจำเป็นในการเตรียมการสำหรับความขัดแย้งทางทะเล การปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ทางทะเล การพัฒนาเศรษฐกิจทางทะเล และการเพิ่มศักยภาพเชิงยุทธศาสตร์ทางทะเล ที่นักวิเคราะห์มองว่าเป็นการเผยความมุ่งมั่นของรัฐบาลปักกิ่งในการเป็นประเทศมหาอำนาจทางทะเลและเข้าควบคุมการสื่อสารทางทะเล
ชี เสริมว่า เมื่อพิจารณาถ้อยแถลงต่าง ๆ เกี่ยวกับ “ความสามารถในการต่อสู้ใหม่” และ “การเตรียมการสำหรับความขัดแย้งทางทะเล” ล้วนเป็นสัญญาณว่า เรือที่ขับเคลื่อนอัตโนมัติแบบไร้คนขับจะกลายมาเป็นโครงการพัฒนาสำคัญของกองทัพจีน
- ผู้สื่อข่าววีโอเอ เอเดรียนา จาง จากวีโอเอภาคภาษาจีน เรียบเรียงรายงานเรื่องนี้
กระดานความเห็น