ลิ้งค์เชื่อมต่อ

Worldwatch ระบุปัญหาความยากจนและผู้หิวโหยคือความท้าทายสำคัญที่สุดในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา


Worldwatch ระบุปัญหาความยากจนและผู้หิวโหยคือความท้าทายสำคัญที่สุดในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา
Worldwatch ระบุปัญหาความยากจนและผู้หิวโหยคือความท้าทายสำคัญที่สุดในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา

สถาบันเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน Worldwatch ในกรุงวอชิงตัน จัดทำรายงานประจำปี พ.ศ 2554 สรุปว่าปีนี้ยังมีประชากรโลกจำนวนมากที่ประสบปัญหาความยากจนและอดอยากหิวโหย รวมทั้งขาดแคลนสิ่งจำเป็นพื้นฐานด้านการศึกษา

รายงานของสถาบัน Worldwatch ชี้ว่าปัจจุบันประชากรโลกราว 1 พันล้านคนยังคงอดหยากหิวโหย แต่ปัญหาที่แท้จริงนั้นไม่ใช่เพราะอาหารไม่เพียงพอ แต่เป็นเพราะคนยากจนที่สุดในโลกต่างไม่มีช่องทางเข้าถึงอาหารมากกว่า


คุณ Danielle Nierenberg ผอ.โครงการจัดหาโภชนาการของสถาบัน Worldwatch กล่าวว่าโลกมีอาหารเพียงพอสำหรับเลี้ยงประชากร 7 พันล้านคนในปัจจุบันหรือแม้แต่ 9 ล้านถึง 11 ล้านคนในอนาคต แต่ปัญหาท้าทายสำคัญที่สุดคือการหาทางให้อาหารเหล่านั้นไปถึงกลุ่มคนยากจนที่สุดในโลกซึ่งขาดแคลนกำลังซื้อ โดยเฉพาะอาหารจำพวกผักและผลไม้

คุณ Nierenberg บอกด้วยว่าความท้าทายสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือการหาทางป้องกันไม่ให้อาหารจำนวนมากเน่าเสียก่อนจะไปถึงมือคนที่ต้องการจริงๆ Worldwatch ระบุว่าแต่ละปีมีอาหารเน่าเสียจนต้องทิ้งโดยเปล่าประโยชน์ราว 20-50% ของปริมาณผลผลิตการเกษตรทั้งหมดบนโลก คิดเป็นจำนวนราว 1,300 ล้านตัน ซึ่งอาหารที่เน่าเสียเหล่านั้นคือความสิ้นเปลืองสูญเปล่าที่สามารถป้องกันได้ โดยอาจทำได้ง่ายๆภายในครอบครัว เช่นการวางแผนกำหนดปริมาณอาหารแต่ละมื้อ ไม่ซื้ออาหารมากเกินไป หรือการใช้ระบบกักเก็บผลผลิตทางการเกษตรเพื่อป้องกันโรคหรือศัตรูพืชดังที่ใช้กันทั่วไปในประเทศกำลังพัฒนา

รายงานของสถาบัน Worldwatch ชี้ว่าปัญหาสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือการขาดแคลนสารอาหารที่จำเป็นเช่นวิตามิน ธาตุเหล็กและไอโอดีน เนื่องจากปัจจุบันมีการผลิตอาหารจำพวกแป้งซึ่งมีแคลลอรี่สูงมากเกินไป คุณ Nierenberg ระบุว่าผลผลิตการเกษตรที่มีแป้งในปริมาณสูง เช่นข้าว ข้าวสาลีหรือข้าวโพดนั้น ทำให้อิ่มท้องได้จริงและยังเป็นพืชเศรษฐกิจที่ทรงความสำคัญต่อปากท้องของผู้คนทั่วโลก แต่ปัญหาคือการลงทุนในอาหารจำพวกผักและผลไม้ยังมีน้อยเกินไป เนื่องจากผักและผลไม้นั้นคือส่วนสำคัญในการแก้ไขปัญหาขาดแคลนสารอาหารทั้งในกลุ่มประชากรยากจนในประเทศกำลังพัฒนาและกลุ่มประชากรที่เป็นโรคอ้วนในประเทศที่พัฒนาแล้วซึ่งจัดเป็นผู้ขาดสารอาหารที่จำเป็นเช่นกัน

รายงานของ Worldwatch ยังบอกด้วยว่าปัญหาขาดสารอาหารนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับการขาดการศึกษาด้วย เพราะเมื่อเกษตรกรขาดการศึกษาก็จะไม่มีโอกาสเรียนรู้เทคนิควิธีและเทคโนโลยีใหม่ๆทางการเกษตร และยังขาดโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนและบริการต่างๆทางการเงิน

อย่างไรก็ตาม Worldwatch ระบุว่าแม้จะมีความท้าทายมากมาย แต่องค์กรต่างๆก็กำลังพยายามหาทางช่วยเหลือ เช่นโครงการอาหารกลางวันสำหรับนักเรียนโดยใช้อาหารที่ผลิตเองในท้องถิ่น ซึ่ง World Food Program เป็นผู้ริเริ่มโครงการนี้ในหลายประเทศเช่น เคนยา บราซิล อินเดียและไทย

XS
SM
MD
LG