หน่วยงานด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติ International Union for Conservation of Nature กล่าวว่า ความหลากหลายทางชีวภาพของโลกกำลังถูกคุกคาม
ร้อยละ 41 ของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ และหนึ่งในสี่ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม กำลังอยู่ในกลุ่มสุ่มเสี่ยง รวมถึงยีราฟ
Alex Motuko จากศูนย์อนุรักษ์ยีราฟ กล่าวว่า พื้นที่อาศัยและที่หาอาหารของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมพันธุ์นี้กำลังลดลงเพราะการทำการเกษตร นอกจากนั้นมนุษย์ยังยิงสังหารยีราฟที่ลุกล้ำเข้ามาในถิ่นเพาะปลูกด้วย
และในประเทศซูดาน ขณะนี้แรดขาวตัวผู้ในประเทศนี้ถูกล่าจนเหลืออยู่เพียงตัวเดียวเท่านั้น หลังจากที่เพื่อนร่วมสายพันธุ์ถูกล่าเพื่อเอานอไปขายทำยาบำรุงสูตรโบราณในทวีปเอเชีย
วิธีหนึ่งที่นักอนุรักษ์พยายามแก้ปัญหา คือตัดนอของสัตว์เหล่านี้ตั้งแต่แรก ก่อนที่พวกมันจะถูกสังหารโดยนายพรานเพื่อการส่งออก อย่างไรตามวิธีดังกล่าวก็อาจจะได้ผลไม่เพียงพอ
นักอนุรักษ์ Jacque Flamand กล่าวว่า หากนักล่าเห็นว่ายังพอเหลือชิ้นเนื้อส่วนนอน้ำหนักครึ่งกิโลกรัม คนเหล่านี้ก็ยังคิดว่าคุ้มที่จะฆ่าแรดและตัดส่วนนอที่เหลือไปขาย
ส่วนม้าลายพันธุ์ Grevy หาดูยากขึ้นเรื่อยๆ คือเหลือเพียง 2,500 ตัวเท่านั้นทั่วโลก และลิงขนาดใหญ่ เช่น อุรังอุตังและกอลิล่า ก็มีจำนวนลดลงอยู่ในขั้นวิกฤติ
ส่วนสัตว์น้ำ นักอนุรักษ์บอกว่าปลาฉลาม Great White Shark อาจกำลังเผชิญกับการสูญพันธุ์เช่นกัน
สำหรับประชากรช้าง การสำรวจล่าสุดชี้ว่าช้างที่อาศัยอยู่ในทะเลทรายซาฮารา ลดจำนวนลงร้อยละ 30 จากเมื่อ 10 ปีก่อน จนถึงปี พ.ศ.2557 และปัจจุบันประชากรช้างในถิ่นดังกล่าวลดลงในอัตราร้อยละ 8 ต่อปี
อย่างไรก็ตาม มีบางบริเวณที่มีช้างมากเกินไปจนเจ้าหน้าที่ต้องย้ายช้างเหล่านี้ไปอยู่ในพื้นที่ใหม่
สัตว์บกอีกชนิดหนึ่งที่พบมากขึ้นคือเสือดาวหิมะ ซึ่งเจ้าหน้าที่ประเมินว่าสามารถกลับมามีจำนวนมากขึ้นเป็น 140 ตัว ในอุทยานแห่งชาติ Wakhan ของประเทศอัฟกานิสถาน
นักวิทยาศาสตร์บอกด้วยว่า ในเขตลุ่มแม่น้ำโขง เช่น เวียดนามและไทย พบสัตว์พันธุ์ใหม่ เช่น งูหัวสีรุ้ง และจิ้งจกพันธุ์ bonkowski
(รายงานโดย Kevin Enochs / เรียบเรียงโดย รัตพล อ่อนสนิท)