ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐหรือ CDC รายงานว่าจนถึงขณะนี้พบคนอเมริกันป่วยเป็นโรคไวรัส West Nile แล้ว 1,118 ราย ในจำนวนนี้ครึ่งหนึ่งอยู่ในรัฐเท็กซัส ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของแต่ละปีถึง 3 เท่า และในปีนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตจากโรคดังกล่าวแล้ว 41 ราย
Dr. Lyle Peterson แห่ง CDC ชี้ว่าขณะนี้สหรัฐกำลังก้าวเข้าสู่สถานการณ์การระบาดของโรค West Nile ครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้น ซึ่งที่ผ่านมายังไม่เคยพบว่ามีผู้ป่วยมากขนาดนี้เพียงแค่ช่วงกลางเดือนสิงหาคมเท่านั้น โดยปกติแล้วโรค West Nile ในสหรัฐมักจะระบาดในช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายน จึงยังไม่อาจระบุได้ชัดเจนว่าการระบาดในปีนี้จะเลวร้ายแค่ไหน
CDC เชื่อว่าอากาศช่วงฤดูหนาวเมื่อต้นปีที่ค่อนข้างอบอุ่น การมาถึงของฤดูใบไม้ผลิที่เร็วกว่าปกติ และฤดูร้อนที่ร้อนเป็นประวัติการณ์ คือปัจจัยที่ทำให้ยุงผสมพันธุ์ วางไข่และขยายพันธุ์มากกว่าปกติ ซึ่งทำให้การระบาดของเชื้อไวรัส West Nile ในปีนี้รุนแรงกว่าปีก่อนๆ โดยไวรัสชนิดนี้มักจะอยู่ในนก และยุงที่ไปกัดนกจะเป็นพาหะนำเชื้อไวรัสมาสู่คน
มีรายงานว่าพบเชื้อไวรัส West Nile ในสหรัฐครั้งแรกเมื่อ 13 ปีก่อนที่รัฐนิวยอร์ค ก่อนที่จะแพร่กระจายไปสู่ส่วนอื่นๆของประเทศ ในอดีตพบผู้ป่วยโรคนี้มากที่สุดในปี พ.ศ 2545 -2546 คือมีผู้ป่วยเกือบ 3 พันรายและเสียชีวิตมากกว่า 260 ราย แต่ปีที่แล้วพบผู้ป่วยเพียง 700 รายเท่านั้น
CDC ระบุว่าในจำนวนผู้ได้รับเชื้อไวรัส 5 รายมีโอกาสเกิดอาการป่วยของโรค West Nile 1 รายหรือ 20% และ 1 ใน 150 รายจะมีอาการป่วยหนัก คือลำคอแข็งตรง งุนงงสับสน หมดสติ อาจถึงขั้นเป็นอัมพาตหรือเสียชีวิต
พื้นที่ในสหรัฐมีมักมีการระบาดของโรค West Nile คือรัฐลุยเซียอะน่า แคลิฟอร์เนีย เท็กซัส อิลลินอยล์ และแอริโซน่า ซึ่งมีปัจจัยหลายอย่างที่เอื้อต่อการระบาด คือมีนกและยุงพันธุ์ที่เป็นพาหะนำโรค ระดับอุณหภูมิและความแออัดของประชากร
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐหรือ CDC แนะนำว่าวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันเชื้อไวรัส West Nile คือระวังไม่ให้ถูกยุงกัด ใช้สเปรย์กันยุง ใส่เสื้อผ้ามิดชิดเวลาออกนอกบ้าน และกำจัดแหล่งน้ำขังต่างๆซึ่งเป็นที่เพาะพันธุ์ยุง
Dr. Lyle Peterson แห่ง CDC ชี้ว่าขณะนี้สหรัฐกำลังก้าวเข้าสู่สถานการณ์การระบาดของโรค West Nile ครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้น ซึ่งที่ผ่านมายังไม่เคยพบว่ามีผู้ป่วยมากขนาดนี้เพียงแค่ช่วงกลางเดือนสิงหาคมเท่านั้น โดยปกติแล้วโรค West Nile ในสหรัฐมักจะระบาดในช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายน จึงยังไม่อาจระบุได้ชัดเจนว่าการระบาดในปีนี้จะเลวร้ายแค่ไหน
CDC เชื่อว่าอากาศช่วงฤดูหนาวเมื่อต้นปีที่ค่อนข้างอบอุ่น การมาถึงของฤดูใบไม้ผลิที่เร็วกว่าปกติ และฤดูร้อนที่ร้อนเป็นประวัติการณ์ คือปัจจัยที่ทำให้ยุงผสมพันธุ์ วางไข่และขยายพันธุ์มากกว่าปกติ ซึ่งทำให้การระบาดของเชื้อไวรัส West Nile ในปีนี้รุนแรงกว่าปีก่อนๆ โดยไวรัสชนิดนี้มักจะอยู่ในนก และยุงที่ไปกัดนกจะเป็นพาหะนำเชื้อไวรัสมาสู่คน
มีรายงานว่าพบเชื้อไวรัส West Nile ในสหรัฐครั้งแรกเมื่อ 13 ปีก่อนที่รัฐนิวยอร์ค ก่อนที่จะแพร่กระจายไปสู่ส่วนอื่นๆของประเทศ ในอดีตพบผู้ป่วยโรคนี้มากที่สุดในปี พ.ศ 2545 -2546 คือมีผู้ป่วยเกือบ 3 พันรายและเสียชีวิตมากกว่า 260 ราย แต่ปีที่แล้วพบผู้ป่วยเพียง 700 รายเท่านั้น
CDC ระบุว่าในจำนวนผู้ได้รับเชื้อไวรัส 5 รายมีโอกาสเกิดอาการป่วยของโรค West Nile 1 รายหรือ 20% และ 1 ใน 150 รายจะมีอาการป่วยหนัก คือลำคอแข็งตรง งุนงงสับสน หมดสติ อาจถึงขั้นเป็นอัมพาตหรือเสียชีวิต
พื้นที่ในสหรัฐมีมักมีการระบาดของโรค West Nile คือรัฐลุยเซียอะน่า แคลิฟอร์เนีย เท็กซัส อิลลินอยล์ และแอริโซน่า ซึ่งมีปัจจัยหลายอย่างที่เอื้อต่อการระบาด คือมีนกและยุงพันธุ์ที่เป็นพาหะนำโรค ระดับอุณหภูมิและความแออัดของประชากร
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐหรือ CDC แนะนำว่าวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันเชื้อไวรัส West Nile คือระวังไม่ให้ถูกยุงกัด ใช้สเปรย์กันยุง ใส่เสื้อผ้ามิดชิดเวลาออกนอกบ้าน และกำจัดแหล่งน้ำขังต่างๆซึ่งเป็นที่เพาะพันธุ์ยุง