ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ทำเนียบขาวรณรงค์หนุนผู้ประท้วงในจีนต่อต้านนโยบาย "โควิดเป็นศูนย์"


เมื่อวันจันทร์ ทำเนียบขาวแสดงความเห็นสนับสนุนการประท้วงอย่างสันติในประเทศจีน สืบเนื่องจากการลุกฮือต่อต้านมาตรการควบคุมโควิด-19 ในหลายเมืองใหญ่ของจีน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ มิได้ระบุว่า จีนควรปรับเปลี่ยนนโยบาย "โควิดเป็นศูนย์" ดังกล่าวหรือไม่

ประชาชนจีนจำนวนมากชุมนุมประท้วงในหลายเมืองในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา รวมทั้งในกรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ นครหางโจว เมืองกว่างโจว เมืองอู่ฮั่นและเมืองเฉิงตู

การประท้วงเกิดขึ้นหลังเกิดเหตุไฟไหม้อาคารที่อยู่อาศัยแห่งหนึ่งที่ถูกล็อกดาวน์ในมณฑลซินเจียงเมื่อสัปดาห์ที่เเล้วที่มีคนเสียชีวิต ซึ่งเป็นชนวนให้เกิดความโกรธแค้นและการประท้วง รวมทั้งนำมาซึ่งคำถามว่า พนักงานดับเพลิงและเหยื่อไฟไหม้ไม่สามารถหนีออกจากตึกได้เพราะประตูถูกล็อกหรือไม่ และความสูญเสียที่เกิดขึ้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับมาตรการควบคุมโควิดหรือไม่

Washington Expresses Support for China Protesters
please wait

No media source currently available

0:00 0:02:47 0:00

จอห์น เคอร์บี ผู้ประสานงานด้านการสื่อสารเชิงยุทธศาสตร์ของสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ กล่าวว่า "ข้อความที่เราสื่อไปยังผู้ประท้วงอย่างสงบทั่วโลกนั้นเหมือนกันและไม่เปลี่ยนแปลง คือประชาชนควรได้รับสิทธิในการชุมนุมและประท้วงอย่างสันติต่อกฎหมายหรือนโยบายหรือคำสั่งใด ๆ ที่พวกเขาไม่เห็นด้วย"

อย่างไรก็ตาม เคอร์บี เสริมว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงใช้ความระมัดระวังในการพูดถึงเรื่องนโยบายควบคุมโควิด-19 อย่างเข้มงวดที่รัฐบาลจีนนำมาใช้ในปัจจุบัน ซึ่งรวมถึงการปิดโรงเรียนและภาคธุรกิจต่าง ๆ ตลอดจนกักตัวประชาชนหลายสิบล้านคนไว้ภายในที่พักของพวกเขา

ผู้ประสานงานด้านความมั่นคงของทำเนียบขาว กล่าวว่า "สหรัฐฯ ไม่สนับสนุนมาตรการล็อกดาวน์ และมีประชาชนจีนจำนวนมากที่กังวลต่อนโยบายนี้จนนำไปสู่การประท้วง ซึ่งอเมริกาเชื่อว่าพวกเขาสามารถทำได้อย่างสันติ"

ทางด้านสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ บางคนวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลจีนที่พยายามควบคุมการแสดงความคิดเห็นของประชาชนจนกลายเป็นการประท้วงที่ใช้กระดาษสีขาวเป็นสัญลักษณ์

วุฒิสมาชิก มาร์ค วอร์เนอร์ จากรัฐเวอร์จิเนีย สังกัดพรรคเดโมแครต กล่าวกับวีโอเอว่า "เราได้เห็นชาวจีนยืนหยัดต่อต้านระบอบเผด็จการของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และเกิดความกังวลทั้งต่อนโยบายควบคุมโควิดและการคุมเข้มการแสดงความคิดเห็นของประชาชน" และว่า "ประชาชนจีนต่างแสดงออกถึงความต้องการของพวกเขาที่อยากมีเสรีภาพและเป็นอิสระจากการควบคุมภายในประเทศของตัวเอง" ซึ่งตนขอสนับสนุนพวกเขา

ด้านวุฒิสมาชิก เท็ด ครูซ จากรัฐเท็กซัส สังกัดพรรครีพับลิกัน เรียกร้องให้ทำเนียบขาวสนับสนุนผู้ประท้วงในจีน "รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ตอบโต้ต่อกรณีการประท้วงในประเทศจีนได้แย่กว่าที่คาดคิดไว้" และว่า "รัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์จีนควรทราบดีว่า ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ จะต้องให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนทุกคนต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่ได้กระทำต่อบรรดาผู้ประท้วง ในช่วงไม่กี่เดือนหรือไม่กี่ปีจากนี้"

ส่วนโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวกับวีโอเอ ว่า ความพยายามทางการทูตใด ๆ ของสหรัฐฯ ในขณะนี้ มุ่งไปที่นโยบาย "โควิดเป็นศูนย์ของจีน" ซึ่งสหรัฐฯ เชื่อว่าไม่สามารถช่วยควบคุมการระบาดของโควิดในประเทศจีนได้

"สำหรับสหรัฐฯ แล้ว วิธีที่ได้ผลคือการใช้เครื่องมือทางสาธารณสุข รวมถึงการระดมฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่อง การทดสอบและเปิดทางให้ผู้ติดเชื้อเข้าถึงการรักษาได้ง่าย" โฆษกผู้นี้กล่าวโดยไม่ขอเปิดเผยชื่อ

ขณะเดียวกัน ทางการจีนพยายามตอบโต้ว่า เหตุการณ์ไฟไหม้ที่มณฑลซินเจียงนั้นไม่เกี่ยวข้องกับการใช้นโยบายควบคุมโควิดของจีนแต่อย่างใด

จ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า "เป็นเรื่องจริงที่มีความพยายามสร้างกระแสในสื่อสังคมออนไลน์ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกี่ยวข้องกับนโยบายควบคุมโควิด"

อย่างไรก็ตาม จูเลียน กู่ ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายที่มหาวิทยาลัย Hofstra ในนิวยอร์ก กล่าวกับ วีโอเอ ว่า "เป็นเรื่องที่น่าตกใจอย่างยิ่งที่ผู้คนจำนวนมากในประเทศจีนกล้าออกมาประกาศในที่สาธารณะ และพยายามโน้มน้าวให้ผู้อื่นสนับสนุนความคิดของพวกเขา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจอย่างแท้จริงของประชาชนเหล่านั้น"

ศาสตราจารย์กู่ กล่าวว่า "การประท้วงในขณะนี้แตกต่างจากการประท้วงตามปกติที่มักเกิดขึ้นแบบจำกัดในท้องถิ่น" และว่า ผู้ประท้วงอาจถูกจับกุมคุมขังได้จากกระทำนี้

ด้านนักวิเคราะห์บางคนกล่าวว่า เป็นที่แน่ชัดว่านโยบายคุมเข้มโควิดที่รัฐบาลจีนนำมาใช้นั้น ไม่สามารถหยุดยั้งการแพร่กระจายของความไม่พอใจของประชาชนในเมืองใหญ่ของจีนและอีกหลายเมืองทั่วโลกได้อีกต่อไป

  • ที่มา: วีโอเอ

XS
SM
MD
LG