หากคุณผู้ฟังลองค้นหาภาพยนตร์ของเวียดนามทางออนไลน์ จะพบว่าชื่อหนังที่ปรากฏส่วนมากไม่ได้เป็นผลงานภาพยนตร์ที่สร้างโดยคนเวียดนาม เเต่เป็นผลงานของฮอลลีวู้ด ที่มีปมเรื่องจากสงครามเวียดนาม
ไม่ว่าจะเป็นหนังเรื่อง Apocalypse Now หรือ Full Metal Jacket และ Born on the Fourth of July
หนังเหล่านี้หลายเรื่องถ่ายทำในสหรัฐฯ เเละทั้งหมดเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชาวอเมริกัน และมีตัวละครชาวเวียดนามเป็นตัวประกอบ
แต่มาในตอนนี้ ชาวเวียดนามในวงการทำหนังเเละการเเสดงกำลังหันมาผลิตหนังของตัวเอง
หง็อค ทัน เวิน (Ngo Thanh Van) ดาราสาวชาวเวียดนามที่โด่งดังในเวทีระดับโลกจากบทบาทในหนังเรื่อง "Crouching Tiger, Hidden Dragon" ได้ผันตัวมาเป็นผู้กำกับ และหนังเรื่องล่าสุดของเธอที่ชือ "The Tailor" จะเป็นหนังตัวแทนของเวียดนามที่เข้าเเข่งขันชิงรางวัล Academy Awards ปีหน้า ในประเภทหนังภาษาต่างประเทศ
ความสนใจที่เพิ่มขึ้นมาจากทั้งผู้สร้างหนังชาวเวียดนามเเละจากผู้ชมชาวเวียดนาม บริษัทโรงภาพยนตร์ในประเทศ CGV รายงานว่ามีกำไรเพิ่มขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์ในปี 2017 ที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
CGV เป็นเพียงบริษัทเเห่งเดียวในธุรกิจนี้ เเละควบคุมโรงหนังเกือบครึ่งหนึ่งของทั้งหมดในเวียดนาม บรรดานักวิจารณ์เรียกบริษัทนี้ว่า "การผูกขาดทางธุรกิจ" แต่การเติบโตของบริษัทชี้ให้เห็นว่า อุตสาหกรรมหนังในเวียดนามกำลังขยายตัวโดยรวม
การขยายตัวของธุรกิจโรงหนังในเวียดนามเกิดขึ้นในช่วงเดียวกับที่มีภาพยนตร์ต่างชาติหลายเรื่องที่เข้าฉาย และมีนักแสดงชาวเวียดนามที่ย้ายถิ่นไปอยู่ต่างแดนร่วมเเสดงด้วย อาทิ หนังฮิตของ Netflix เรื่อง "To All the Boys I've Loved Before" นำแสดงโดย ลานา คอนเดอร์ ดาราสาววัยรุ่นอเมริกันเชื้อสายเวียดนามที่เกิดในเมืองเกิ่น เทอ เมืองดินแดนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง
และในภาพยนตร์เรื่อง "Downsizing" ที่ Matt Damon รับบทดาราเอก ก็มีดาราสมทบเป็นชาวเวียดนาม Hong Chau ซึ่งในเรื่องเธอพูดภาษาอังกฤษสำเนียงชาวเวียดนาม และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Golden Globe
นอกจากนี้ยังมีดาราและผู้สร้างหนังเชื้อสายเวียดนามหลายคนที่ย้ายถิ่นไปอยู่ต่างประเทศ และได้หวนกลับไปตั้งรกรากในประเทศบ้านเกิดกันในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
เหงียน เคา คี เซวียน (Nguyen Cao Ky Duyen) ดาราชาวเวียดนามเขียนในเฟสบุ๊กว่า การชมหนังเวียดนามเป็นวิธีหนึ่งที่สนุก หย่อนใจ เเละได้ผลในการเเสดงออกถึงความรักชาติ เธอบอกว่าหากคุณสนับสนุนภาพยนตร์เวียดนาม ภาพยนตร์ก็จะทำกำไรเเละผู้ลงทุนก็จะลงทุนเพิ่มมากขึ้น
เธอกล่าวว่า เวียดนามมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมากมายที่เหมาะแก่การเป็นฉากหนัง และหนังเรื่อง "คอง: เกาะหัวกระโหลก" ก็เป็นตัวอย่างหนังที่ดีเรื่องหนึ่งที่หลายฉากถ่ายทำในเวียดนาม เพราะมีทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่สวยงาม ไม่ว่าจะเป็นหน้าผาหินปูน เเละน้ำทะเลสีเขียวมรกตของอ่าวฮาลอง มรดกโลกทางธรรมชาติขององค์การยูเนสโก
หนังเรื่องนี้ยังเป็นสัญลักษณ์ของผันตัวของหนังเวียดนามจากหนังที่เกี่ยวกับสงคราม ไปเสนอเนื้อหาที่เเตกต่างสิ้นเชิงแต่ที่ใช้มนต์เสน่ห์ของวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเวียดนาม ในการเปลี่ยนมุมมองของผู้ชมว่าเวียดนามมีศักยภาพของการถ่ายทำหนังที่ไม่จำเป็นต้องเป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับสงครามเสมอไป
ภาพยนตร์ภาษาเวียดนามได้เข้าไปสู่สังเวียนระดับโลกไ ม่ว่าจะเป็นหนังเรื่อง "Cyclo" ไปจนถึง "The White Silk Dress" และคนท้องถิ่นหวังว่าหนังเหล่านี้จะเป็นเพียงเเค่จุดเริ่มต้นของอุตสาหกรรมภาพยนตร์เวียดนามที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วเท่านั้น
คี เซวียน ดาราเวียดนาม บอกว่า ทุกคนรู้ดีว่าหนังเวียดนามยังไม่สามารถเทียบได้กับหนังในประเทศเพื่อนบ้าน เพราะเวียดนามกำลังอยู่ในช่วงของการเปิดประเทศ เเต่เธอกล่าวว่านี่ไม่ได้หมายความว่าหนังเวียดนามจะไล่ตามหรือเเซงหน้าหนังต่างชาติไม่ได้
เพราะในเมืองอินเดียมีวงการ 'บอลลีวู้ด' ส่วนไนจีเรียมี 'นอลลีวู้ด' หมายความว่าอีกไม่ช้าไม่นาน เวียดนามอาจจะให้กำเนิดวงการ 'วอลลีวู้ด' ก็ได้
(เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)
