วานูอาตู เป็นชาติหมู่เกาะเล็กๆ ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของออสเตรเลียและเมื่อเร็วๆ นี้ นายราฟ เรเกนวานู (Ralph Regenvanu) รัฐมนตรีต่างประเทศของวานูอาตูกล่าวว่าประเทศของเขากำลังพิจารณาเอาความทางกฏหมายต่อบรรดาเจ้าของอุตสาหกรรมเเละประเทศต่างๆ ที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดจากพลังงานเชื้อเพลิงจากซากพืชซากสัตว์ ซึ่งเป็นต้วสร้างมลภาวะทางอากาศ สาเหตุของภาวะโลกร้อน
นายเรเกนวานูกล่าวว่าวานูอาตูเป็นชาติที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศโลกมากกว่าชาติอื่นๆ เเม้ว่าจะเป็นชาติที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงจากซากพืชซากสัตว์น้อยที่สุดก็ตาม เขากล่าวว่าถึงเวลาเเล้วที่ประเทศอุตสาหกรรมที่สร้างมลภาวะมากที่สุดต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่วานูอาตูต้องประสบเนื่องจากภาวะโลกร้อน
เขากล่าวว่าบริษัทเจ้าของอุตสาหกรรมน้ำมัน แก๊สเเละถ่านหิน ทำกำไรได้หลายพันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ทุกปีและควรรับผิดชอบจ่ายค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับสิ่งเเวดล้อมเเละเศรษฐกิจของประเทศอย่าง วานูอาตู ที่เริ่มได้รับผลกระทบรุนแรงจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ รวมทั้งภาวะระดับน้ำทะเลสูงขึ้น
ประเทศวานูอาตูมีประชากรมากกว่า 260,000 คน โดยอาศัยอยู่ตามเกาะต่างๆ มากกว่า 82 เกาะ โดยเกาะเหล่านี้ส่วนมากอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลเพียงไม่ถึงหนึ่งเมตรเท่านั้นและกระจายอยู่ทั่วบริเวณ 1,300 กิโลเมตรในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้
นายเรเกรวานู รัฐมนตรีต่างประเทศแห่งวานูอาตูกล่าวว่าภาวะโลกร้อนไม่มีความยุติธรรมเพราะประเทศที่ได้รับผลกระทบก่อนเเละรุนแรงที่สุดเป็นประเทศที่มีส่วนสร้างต้นหตุของปัญหาน้อยที่สุด
เขาได้เเสดงความคิดเห็นนี้ในตอนเปิดงานการประชุม Climate Vulnerable Forum หรือ CVF ซึ่งเป็นการประชุมนานาชาติที่จัดขึ้นทางออนไลน์ทั้งหมดเเละเน้นประเทศที่เสี่ยงมากที่สุดจากภาวะโลกร้อนซึ่งมีผลกระทบร้ายแรง
บรรดาผู้จัดการประชุม CVF ได้เร่งเร้าให้รัฐบาลทั่วโลกเพิ่มความพยายามมากกว่าเเค่บรรลุเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้โดยข้อตกลงว่าด้วยภาวะโลกร้อนแห่งกรุงปารีสในปี ค.ศ. 2015 ซึ่งมุ่งลดระดับแก๊สเรือนกระจกที่คนสร้างขึ้นเพื่อรักษาให้ระดับอุณหภูมิทั่วโลกไม่ให้เพิ่มขึ้นสูงกว่าระดับอุณหภูมิโลกในช่วงก่อนยุคอุตสาหกรรมเกินกว่า 2 องศาเซลเซียส
นายเรเกนวานูกล่าวว่าการยื่นฟ้องเป็นทางเลือกของมาตรการทางกฏหมายอย่างหนึ่งที่ประเทศวานูอาตูกำลังพิจารณาอยู่ในขณะนี้ เขากล่าวว่ารัฐบาลของวานูอาตูกำลังมองหาช่องทางที่จะใช้ระบบยุติธรรมในระดับต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกฏหมายระหว่างประเทศไปจนถึงการปรับให้ค่าใช้จ่ายในการปกป้องภาวะโลกร้อนกลายเป็นภาระของประเทศผู้ผลิตน้ำมัน แก๊สเเละถ่านหิน ตลอดจนบรรดาสถาบันทางการเงินเเละรัฐบาลประเทศต่างๆ ที่มีส่วนโดยตรงในการสร้างปัญหาภาวะโลกร้อนที่เป็นภัยคุกคามแก่ความคงอยู่ของประเทศของเขา
รายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์สชี้ว่าการฟ้องร้องเอาความผิดต่อบรรดาบริษัทและรัฐบาลต่างๆ ที่มีส่วนสร้างปัญหาภาวะโลกร้อนกำลังเพิ่มขึ้นในขณะนี้
รอยเตอร์สรายงานว่าทางการของเมืองบัลติมอร์ รัฐเเมรี่เเลนด์ในทางฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อเอาผิดกับบริษัทน้ำมันเเละแก๊ส 26 บริษัท รวมทั้ง BP บริษัท Chevron และบริษัท Exxon Mobil ที่บริษัทเหล่านี้สร้างภาวะโลกร้อนทั้งๆ ที่รู้ดีถึงผลกระทบรุนแรงที่ตามมา
(เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)
