ลิ้งค์เชื่อมต่อ

กลุ่มพันธมิตรวัคซีนชั้นนำของโลกเตรียมแผนรับมือโรคระบาดในอนาคต


Image taken from video shows people working inside the UNICEF warehouse, the world's largest humanitarian aid warehouse, in Copenhagen, Denmark , Tuesday Oct. 13, 2020.
Image taken from video shows people working inside the UNICEF warehouse, the world's largest humanitarian aid warehouse, in Copenhagen, Denmark , Tuesday Oct. 13, 2020.

องค์กรพันธมิตรเพื่อวัคซีน กาวิ (GAVI - Global Alliance for Vaccines and Immunization) ประสบปัญหาในการจัดซื้อวัคซีนให้กับประเทศที่ขาดแคลนในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 และในเวลานี้ ทางองค์กรตัดสินใจปรับเปลี่ยนแผนงานที่จะเอื้อให้มีการถอนเงินสดออกมาโดยไม่มีการล่าช้า ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องซื้อวัคซีนไว้สำหรับการระบาดใหญ่ที่อาจจะเกิดขึ้น

เซ็ธ เบิร์คเลย์ (Seth Berkley) ผู้บริหารระดับสูงของกาวิ กล่าวว่า ในปี 2020 และ 2021 นั้น ความสามารถของ กาวิ ในการซื้อวัคซีนป้องกันโควิด-19 ถูกจำกัดไว้ แม้มีผู้บริจาคที่สัญญาจะบริจาคเงินจำนวน 2,400 ล้านดอลลาร์ให้แก่องค์กร ซึ่งมีเงินสดอยู่ในมือเพียง 400 ล้านดอลลาร์เท่านั้น

เบิร์คเลย์บอกกับรอยเตอร์ว่า "ทางองค์กรกำลังระดมทุนจากผู้บริจาคทั้งในสหรัฐฯ และในยุโรป เพื่อที่จะสามารถดำเนินการตามคำมั่นสัญญาในเรื่องการซื้อวัคซีนให้แก่ประเทศที่ขาดแคลน” และว่า "แนวคิดขององค์กรก็คือ การที่มีงบประมาณเพียงพอที่จะเริ่มต้น(กระบวนการจัดซื้อ)ได้อย่างรวดเร็ว"

ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา กาวิ ได้ประกาศแผนการระดมทุนที่คล้ายกัน เพื่อรวบรวมเงินจำนวน 4,800 ล้านดอลลาร์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานรับมือกับสถานการณ์โควิด-19

FILE - A worker checks boxes of a coronavirus vaccine following their delivery at the airport in Nairobi, Kenya, Aug. 23, 2021.
FILE - A worker checks boxes of a coronavirus vaccine following their delivery at the airport in Nairobi, Kenya, Aug. 23, 2021.

กาวิ และองค์การอนามัยโลก (WHO) ร่วมกันจัดตั้งโครงการโคแวกซ์ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับบรรดาประเทศยากจนในโลก โดยโคแวกซ์ได้ส่งมอบวัคซีนไปแล้วกว่า 1,720 ล้านโดสไปยัง 146 ประเทศแล้ว

แต่ถึงกระนั้น ทางองค์กรก็ยังต้องดิ้นรนเพื่อซื้อวัคซีนให้เพียงพอที่จะแบ่งปันแก่ประเทศยากจนในช่วงครึ่งแรกของปี 2021 โดยเบิร์คเลย์ กล่าวว่า นั่นเป็นเพราะบางประเทศ ซึ่งรวมไปถึงสหรัฐฯ อินเดีย แอฟริกาใต้ และอังกฤษ ต้องการที่จะเก็บวัคซีนจำนวนมากไว้ให้กับคนในประเทศของตน

เขากล่าวต่อไปอีกว่า มีหลาย ๆ ประเทศที่เอ่ยออกมาว่า 'จะดูแลเฉพาะคนในประเทศของตนก่อนเท่านั้น' และว่า การผลิตวัคซีนในที่ต่าง ๆ ให้มากขึ้น และพัฒนาความสามารถในการผลิตวัคซีนในประเทศขนาดเล็ก เช่น สิงคโปร์และรวันดา เป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับการระบาดใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ทั้งนี้ ในปัจจุบัน การเร่งผลิตอย่างหนักทำให้มีวัคซีนมากเกินความต้องการไปแล้ว โดยตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นมา โคแวกซ์ได้ขอให้ผู้ผลิตวัคซีนลดหรือชะลอการส่งมอบวัคซีน 400 ล้านถึง 600 ล้านโดสไว้ก่อน เนื่องจากโคแวกซ์มีวัคซีนป้องกันโควิด-19 อยู่แล้ว 300 ถึง 400 ล้านโดส เพื่อส่งให้ประเทศใด ๆ ก็ตามที่ต้องการวัคซีนเพิ่ม

  • ที่มา: รอยเตอร์
XS
SM
MD
LG