การผลิตกระเเสไฟฟ้าจากพลังงานลม และเเสงอาทิตย์ถือว่าเป็นมิตรต่อสิ่งเเวดล้อมมากกว่าการผลิตกระเเสไฟฟ้าจากพลังงานถ่านหิน แต่บรรดานักอนุรักษ์สิ่งเเวดล้อมในอเมริกาต่างกังวลกันว่า โครงการผลิตกระเเสไฟฟ้าพลังงานเเสงอาทิตย์ขนาดใหญ่ในทะเลทรายโมฮาวี่ในรัฐแแคลิฟอร์เนียแห่งนี้ อาจจะส่งผลเสียต่อระบบนิเวศวิทยาในพื้นที่
ไอวานพา อยู่กลางทะเลทรายโมฮาวี่ (Mojave) ในรัฐเเคลิฟอร์เนีย โดยอยู่ห่างจากลาสเวกัสไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ราว 60 กิโลเมตร ที่นี่มีแผงโซล่าตั้งเรียงรายอยู่จำนวนมาก สะท้อนเเสงแดดวาววับดูเหมือนภาพลวงตา
คุณโจ เดสมอน เจ้าหน้าที่อาวุโสแห่งบริษัท BrightSource Energy ซึ่งเป็นผู้ก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานเเสงอาทิตย์แห่งนี้ กล่าวว่า ไอวานพา เป็นหนึ่งในบรรดาจุดที่มีเเสงแดดส่องมากที่สุดในโลก
โรงงานไฟฟ้าพลังงานเเสงอาทิตย์นี้จะติดตั้งแผงโซล่าจำนวน 170,000 แผงเพื่อนำความร้อนจากแสงแดดไปสู่ตัวบอยเล่อร์ที่ตั้งอยู่ยอดของของทาวเวอร์ผลิตพลังงานทั้งสามจุด ไอน้ำที่ได้จากความร้อนที่ผลิตจากบอยเล่อร์จะเข้าไปยังตัวปั่นไฟเพื่อผลิตเป็นกระเเสไฟฟ้า
คุณเดสมอนกล่าวว่าอุณหภูมิของไอน้ำที่ได้จากบอยเล่อร์สูงกว่า 260 องศาเซลเซียส เขากล่าวว่าสามารถจัดเก็บพลังงานความร้อนจากแสงอาทิตย์ไว้ในรูปของเกลือเหลว ดังนั้นจะยังสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่องเเม้จะเป็นช่วงหลังพระอาทิตย์ตกดินก็ตาม เขากล่าวว่าเกิดความสนใจผลิตกระเเสไฟฟ้าจากเเสงอาทิตย์กันมากขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศที่ร่ำรวยเเสงแดด รวมทั้ง จีน อาฟริกาใต้ ตะวันออกกลางและอาฟริกาเหนือ
บรรดานักอนุรักษ์สิ่งเเวดล้อมโดยทั่วไปจะสนับสนุนแนวคิดนี้ แต่หลายคนชี้ว่าควรอนุรักษ์สภาพธรรมชาติที่ไอวานพาเอาไว้
คุณลิซ่า เบลเลนกี้ เจ้าหน้าที่ด้านกฏหมายแห่งศูนย์ Center for Biological Diversity ชี้ว่าแม้ว่าทะเลทรายแห่งนี้จะกว้างใหญ่ แต่หากมีการกันพื้นที่ในทะเลทรายออกไป จะมีผลกระทบต่อความอยู่รอดของบรรดาพืชพันธุ์และสัตว์ชนิดต่างๆในระยะยาว
คุณเบลเลนกี้เป็นทนายความแก่ทางศูนย์ Center for Biological Diversity ที่เป็นหน่วยงานรณรงค์เอกชนที่มีสำนักงานอยู่ในหลายรัฐทั่วสหรัฐอเมริกา เธอกล่าวว่านักอนุรักษ์สิ่งเเวดล้อมหลายคนกังวลถึงผลกระทบของการสร้างโรงงานผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ไอวานพาที่ได้รับแรงหนุนจากบริษัทกูเกิ้ล ต่อพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ที่มีความอ่อนไหวในพื้นที่ทะเลทรายโมฮาวี่ส่วนนี้
บริษัท BrightSource Energy ได้ใช้เงินไปแล้วมากกว่าห้าสิบล้านดอลล่าร์สหรัฐในการย้ายถิ่นฐานเต่าทะเทรายที่ใกล้จะสูญพันธุ์ แต่คุณเบลเลนกี้กล่าวว่าการย้ายถิ่นฐานเต่าไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูกจุด
เธอกล่าวว่าควรกลับไปใช้พื้นที่ใช้ที่ระบบนิเวศถูกทำลายไปแล้ว อาทิ เหมืองร้าง หรือ บนหลังคาอาคารบ้านเรือน สำนักงาน หรือเเม้แต่บนลานจอดรถ
บริษัท BrightSource Energy ได้ตกลงขายพลังงานไฟฟ้าเป็นการล่วงหน้าแล้วแก่หลายๆ เขตในรัฐเเคลิฟอร์เนีย และโรงงานผลิตไฟฟ้าพลังงานเเสงอาทิตย์ของบริษัทจะเริ่มต้นผลิตกระเเสไฟฟ้าภายในสิ้นปีนี้
ไอวานพา อยู่กลางทะเลทรายโมฮาวี่ (Mojave) ในรัฐเเคลิฟอร์เนีย โดยอยู่ห่างจากลาสเวกัสไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ราว 60 กิโลเมตร ที่นี่มีแผงโซล่าตั้งเรียงรายอยู่จำนวนมาก สะท้อนเเสงแดดวาววับดูเหมือนภาพลวงตา
คุณโจ เดสมอน เจ้าหน้าที่อาวุโสแห่งบริษัท BrightSource Energy ซึ่งเป็นผู้ก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานเเสงอาทิตย์แห่งนี้ กล่าวว่า ไอวานพา เป็นหนึ่งในบรรดาจุดที่มีเเสงแดดส่องมากที่สุดในโลก
โรงงานไฟฟ้าพลังงานเเสงอาทิตย์นี้จะติดตั้งแผงโซล่าจำนวน 170,000 แผงเพื่อนำความร้อนจากแสงแดดไปสู่ตัวบอยเล่อร์ที่ตั้งอยู่ยอดของของทาวเวอร์ผลิตพลังงานทั้งสามจุด ไอน้ำที่ได้จากความร้อนที่ผลิตจากบอยเล่อร์จะเข้าไปยังตัวปั่นไฟเพื่อผลิตเป็นกระเเสไฟฟ้า
คุณเดสมอนกล่าวว่าอุณหภูมิของไอน้ำที่ได้จากบอยเล่อร์สูงกว่า 260 องศาเซลเซียส เขากล่าวว่าสามารถจัดเก็บพลังงานความร้อนจากแสงอาทิตย์ไว้ในรูปของเกลือเหลว ดังนั้นจะยังสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่องเเม้จะเป็นช่วงหลังพระอาทิตย์ตกดินก็ตาม เขากล่าวว่าเกิดความสนใจผลิตกระเเสไฟฟ้าจากเเสงอาทิตย์กันมากขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศที่ร่ำรวยเเสงแดด รวมทั้ง จีน อาฟริกาใต้ ตะวันออกกลางและอาฟริกาเหนือ
บรรดานักอนุรักษ์สิ่งเเวดล้อมโดยทั่วไปจะสนับสนุนแนวคิดนี้ แต่หลายคนชี้ว่าควรอนุรักษ์สภาพธรรมชาติที่ไอวานพาเอาไว้
คุณลิซ่า เบลเลนกี้ เจ้าหน้าที่ด้านกฏหมายแห่งศูนย์ Center for Biological Diversity ชี้ว่าแม้ว่าทะเลทรายแห่งนี้จะกว้างใหญ่ แต่หากมีการกันพื้นที่ในทะเลทรายออกไป จะมีผลกระทบต่อความอยู่รอดของบรรดาพืชพันธุ์และสัตว์ชนิดต่างๆในระยะยาว
คุณเบลเลนกี้เป็นทนายความแก่ทางศูนย์ Center for Biological Diversity ที่เป็นหน่วยงานรณรงค์เอกชนที่มีสำนักงานอยู่ในหลายรัฐทั่วสหรัฐอเมริกา เธอกล่าวว่านักอนุรักษ์สิ่งเเวดล้อมหลายคนกังวลถึงผลกระทบของการสร้างโรงงานผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ไอวานพาที่ได้รับแรงหนุนจากบริษัทกูเกิ้ล ต่อพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ที่มีความอ่อนไหวในพื้นที่ทะเลทรายโมฮาวี่ส่วนนี้
บริษัท BrightSource Energy ได้ใช้เงินไปแล้วมากกว่าห้าสิบล้านดอลล่าร์สหรัฐในการย้ายถิ่นฐานเต่าทะเทรายที่ใกล้จะสูญพันธุ์ แต่คุณเบลเลนกี้กล่าวว่าการย้ายถิ่นฐานเต่าไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูกจุด
เธอกล่าวว่าควรกลับไปใช้พื้นที่ใช้ที่ระบบนิเวศถูกทำลายไปแล้ว อาทิ เหมืองร้าง หรือ บนหลังคาอาคารบ้านเรือน สำนักงาน หรือเเม้แต่บนลานจอดรถ
บริษัท BrightSource Energy ได้ตกลงขายพลังงานไฟฟ้าเป็นการล่วงหน้าแล้วแก่หลายๆ เขตในรัฐเเคลิฟอร์เนีย และโรงงานผลิตไฟฟ้าพลังงานเเสงอาทิตย์ของบริษัทจะเริ่มต้นผลิตกระเเสไฟฟ้าภายในสิ้นปีนี้
