ก่ารเลือกตั้งทั่วไปในสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายนนี้เป็นการเลือกตั้งที่เรียกว่ากลางเทอมหรือกึ่งสมัย (mid- term) และกลุ่มซึ่งเรียกตัวเองว่า Tea Party Movement อันเป็นการรวมตัวกันของผู้ที่มีแนวคิดแบบอนุรักษ์นิยมและเสรีนิยมในพรรครีพับริกันที่ไม่ต้องการให้รัฐบาลเข้ามามีบทบาทแทรกแซงในเรื่องใดๆ มีบทบาทอย่างสำคัญ ขณะนี้ Tea Party ยังไม่มีฐานะเป็นพรรคการเมืองอย่างเป็นทางการ และได้ชื่อนี้มาจากการรณรงค์ต่อต้านการเก็บภาษีจากอังกฤษด้วยการโยนห่อใบชาลงในอ่าวบอสตันโดยชาวอเมริกันในสมัยที่สหรัฐฯ ยังเป็นอาณานิคมของอังกฤษเมื่อปี ค.ศ. 1773 ซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่า Boston Tea Party หรืองานเลี้ยงน้ำชาที่นครบอสตัน
ในปีนี้ มีผู้สมัครซึ่งกลุ่ม Tea Party และโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่อดีตผู้ว่าการรัฐอลาสก้า คือนางซาร่าห์ เพลิน ให้ความสนับสนุนหลายคนได้รับชัยชนะเหนือผู้สมัครที่ผู้นำพรรครีพับริกันหนุนหลังจากการเลือกตั้งขั้นต้นภายในพรรค เพื่อคัดเลือกให้เป็นตัวแทนพรรคลงแข่งในการเลือกตั้งทั่วไปเดือนพฤศจิกายน อย่างเช่นในรัฐโคโลราโด้ คอนเนคติคัท เคนตั๊คกี้ เนวาดา ยูท่าห์ และล่าสุดคือในรัฐเดลลาแวร์ เป็นต้น อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์การเมืองมองว่าตัวแทนของพรรครีพับริกันที่มาจากกลุ่ม Tea Party เหล่านี้มีจุดยืนแบบอนุรักษ์นิยมมากเกินไปจนอาจไม่ได้รับคะแนนเสียงจากประชาชนส่วนใหญ่ในการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนพศจิกายน และว่าการต่อสู้นี้แสดงถึงความแตกแยกเหมือนสงครามกลางเมืองภายในในพรรครีพับริกันเอง ที่ส่งสัญญาณออกมาว่าทางพรรคไม่ยินดีต้อนรับผู้ที่มีแนวคิดแบบทางสายกลาง ผลการสำรวจของมหาวิทยาลัย Quinnipiac แสดงว่า ขณะนี้คนอเมริกันราว 13 % สนับสนุนขบวนการ Tea Party ดังกล่าว
