หลังจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แสดงท่าทีว่าอาจจะพบหารือกับผู้นำเกาหลีเหนืออีกครั้งในช่วงต้นปีหน้า อดีตเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ ผู้มีประสบการณ์เรื่องเกาหลีเหนือ ได้ออกมาเตือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องจังหวะเวลาของการพบปะครั้งที่สอง โดยชี้ว่าสหรัฐฯ ควรให้ความสำคัญกับการหารือในระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานก่อนเป็นอันดับแรก
นาย Robert Gallucci อดีตหัวหน้าเจ้าหน้าที่เจรจาเรื่องเกาหลีเหนือของสหรัฐฯ ช่วงปี 1994 กล่าวว่า สิ่งที่ตนให้ความสำคัญที่สุดตอนนี้ คือความคืบหน้าอย่างแท้จริง และควรจะมีคำตอบอย่างชัดเจนก่อนว่าเกาหลีเหนือคาดหวังอะไร และสหรัฐฯ พร้อมจะผ่อนปรนในเรื่องใดได้บ้าง
ส่วนนาย Christopher Hill อดีตทูตพิเศษของสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการเกาหลีเหนือ สมัยประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช ก็ไม่เชื่อว่าการพบปะครั้งที่สองระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์ กับนายคิม จอง อึน จะให้ผลอะไรมากมาย เมื่อพิจารณาจากความไม่คืบหน้าหลังการพบปะครั้งแรกที่สิงคโปร์ เมื่อเดือนมิถุนายน
นาย Christopher Hill เสริมว่า ตนมองไม่เห็นว่ามีประเด็นอะไรที่จะหารือเพิ่มเติมในขณะนี้ และว่าการเจรจาและข้อตกลงเรื่องการลดอาวุธนิวเคลียร์ซึ่งจะเป็นผลจากการหารือระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานนั้นจะเป็นเครื่องกำหนดความสำเร็จของการพบปะระดับสุดยอดอย่างแท้จริง เพราะความสำเร็จของการพบปะระดับผู้นำนั้น เป็นสัดส่วนและเป็นผลลัพธ์มาจากงานและรายละเอียดของการตกลงกันล่วงหน้าโดยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งขณะนี้ตนก็ยังมีความเคลือบแคลงใจอยู่มาก
เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน เกาหลีเหนือได้ยกเลิกแผนการพบปะกับรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ในนาทีสุดท้าย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่า เปียงยางสนใจจะหารือกับประธานาธิบดีทรัมป์โดยตรงมากกว่า เพราะเชื่อว่าผู้นำสหรัฐฯ จะสามารถตัดสินใจหรือเสนอการผ่อนปรนให้ได้มากกว่าเจ้าหน้าที่ระดับล่าง
อย่างไรก็ตาม นาย Bruce Klingon อดีตหัวหน้าฝ่ายเกาหลีของซีไอเอ (CIA) และขณะนี้เป็นนักวิเคราะห์ของ Heritage Foundation ชี้ว่า จะเป็นความผิดพลาดอย่างสำคัญ หากจะมีการประชุมสุดยอดครั้งที่สองระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีเหนือในขณะนี้ ก่อนจะมีความคืบหน้าในเรื่องข้อตกลงเพื่อลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนืออย่างสมบูรณ์
ด้านนาย Robert Manning นักวิเคราะห์อาวุโสของ Atlantic Council ก็เตือนเช่นกันว่า ยังไม่ควรมีการพบปะระดับสุดยอดระหว่างวอชิงตันกับเปียงยาง เพราะผลลัพธ์ของการประชุมครั้งแรกที่สิงคโปร์นั้นยังคลุมเครือจนไม่สามารถช่วยเป็นแรงผลักดันใดใดให้กับการเจรจาในรายละเอียดระดับเจ้าหน้าที่ หรือเพื่อจัดทำกรอบโครงร่างเพื่อแก้ปัญหาซึ่งทั้งสองฝ่ายมีอยู่ในขณะนี้ได้
อย่างไรก็ตาม นาย Robert Palladino รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงยืนยันเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า จะมีการหารือเพิ่มเติมกับเกาหลีเหนือต่อไป และขณะที่สหรัฐฯ เปิดรับโอกาสการเจรจากับเปียงยางนั้น มาตรการลงโทษที่สหรัฐฯ ใช้กับเกาหลีเหนือ ก็จะยังคงอยู่ต่อไป
