ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ผลการสำรวจทัศนคติล่าสุดชี้แนะว่า สิบปีหลังการโจมตีเมื่อ 11 กันยายน 2011 มีชาวมุสลิมในอเมริกาน้อยมากที่สนับสนุนความคิดเห็นสุดโต่ง


ผลการสำรวจทัศนคติล่าสุดชี้แนะว่า สิบปีหลังการโจมตีเมื่อ 11 กันยายน 2011 มีชาวมุสลิมในอเมริกาน้อยมากที่สนับสนุนความคิดเห็นสุดโต่ง
ผลการสำรวจทัศนคติล่าสุดชี้แนะว่า สิบปีหลังการโจมตีเมื่อ 11 กันยายน 2011 มีชาวมุสลิมในอเมริกาน้อยมากที่สนับสนุนความคิดเห็นสุดโต่ง

นับตั้งแต่การโจมตีของผู้ก่อการร้ายในสหรัฐ เมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2011 เป็นต้นมา คนอเมริกันจำนวนมากวิตกกังวลกันว่า อาจจะมีความเป็นไปได้สูงที่ชาวมุสลิมที่พำนักอาศัยอยู่ในอเมริกาจะหันมาฝักใฝ่ความรุนแรง แต่ผลการสำรวจทัศนคติครั้งใหม่ล่าสุดของคนอเมริกันที่นับถือศาสนาอิสลาม ชี้แนะว่า สิบปีหลังการก่อการร้ายที่ว่านั้น มีการสนับสนุนความคิดเห็นสุดโต่งน้อยมาก

การสำรวจครั้งนี้ ทำโดย Pew Forum on Religion and Public Life (pewforum.org) และเผยแพร่ออกมาก่อนวันครบรอบสิบปีของการโจมตีที่นครนิวยอร์คและกรุงวอชิงตัน แต่ตรงกับวัน Eid al Fitr ซึ่งเป็นวันฉลองการสิ้นสุดของการถือบวชตามศาสนาอิสลาม

การสำรวจที่ว่านี้สอบถามความคิดเห็นของชาวอิสลามในอเมริกามากกว่าหนึ่งพันคน มีเพียงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ที่กล่าวว่า การวางระเบิดพลีชีพ และความรุนแรงที่กระทำต่อพลเรือนในรูปแบบอื่นๆ เป็นเรื่องสมควรเพื่อป้องกันศาสนาอิสลามจากศัตรู

นักวิจัยของ Pew นาย Gregory Smith กล่าวว่าผลการสำรวจแสดงให้เห็นว่า มีการสนับสนุนความคิดเห็นสุดโต่งน้อยมากในหมู่ชาวมุสลิมในสหรัฐ

นักวิจัยของ Pew กล่าวว่า คนจำนวนมากบอกว่า การกระทำ เช่น การวางระเบิดพลีชีพ เป็นเรื่องที่หาเหตุผลมาสนับสนุนไม่ได้เลย คนเหล่านี้ไม่เห็นด้วยกับพวกอัล-ไคด้า และยังพบด้วยว่า ชาวมุสลิมในสหรัฐพอใจกับชีวิตของตน ชุมชนที่ตนอยู่ และทิศทางที่ประเทศกำลังดำเนินไป

นาย Gregory Smith ของมูลนิธิ Pew ให้ข้อสังเกตว่า 81% ของผู้ที่ตอบว่า ไม่มีเหตุผลอันใดที่จะนำมาสนับสนุนการวางระเบิดพลีชีพได้นั้น เป็นจำนวนมากกว่าสองเท่าของผลการสำรวจที่ได้ในบางประเทศในตะวันออกกลางที่มีชาวมุสลิมเป็นชนกลุ่มใหญ่

ผลการสำรวจของ Pew ในสหรัฐยังพบด้วยว่า สองในสามของชาวมุสลิมในอเมริกาเชื่อว่า มีหนทางที่อิสราเอลจะคงอยู่ได้ โดยที่ชาวปาเลสไตน์ก็จะมีสิทธิของตนเอง ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงกว่าชาวมุสลิมที่มีความเชื่อเช่นเดียวกันนี้ในตะวันออกกลาง

การสำรวจของ Pew ครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่า คนอเมริกันที่นับถือศาสนาอิสลามเป็นจำนวนมากชอบชุมชนของตน Gregory Smith นักวิจัยของ Pew บอกว่า คำถามในเรื่องนี้มีหลากหลาย รวมทั้งแนวทางการดำรงชีวิต เช่น การรีไซเคิล การดูกีฬาและการเข้าเครือข่ายสังคมทางอินเทอร์เน็ต และคำตอบที่ได้ชี้แนะว่า คนเหล่านี้ก็เหมือนกับคนอเมริกันทั่วๆไป

แต่นักวิจัยผู้นี้เตือนไว้ด้วยว่า แม้จะพูดได้อย่างนั้น แต่ก็ไม่ควรกลบเกลื่อนหรือละเลยผลการสำรวจที่แสดงให้เห็นด้วยว่า ชาวมุสลิมในอเมริกาต้องเผชิญหน้ากับปัญหาท้าทายไม่น้อยเลยทีเดียว

นักวิจัยผู้นี้ตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่กล่าวว่า หลังการโจมตีของผู้ก่อการร้ายเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2011 เป็นต้นมา การเป็นผู้นับถือศาสนาอิสลามทำให้ชีวิตยุ่งยากมากขึ้น ราวๆ 20% พูดถึงการถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตามท่าอากาศยานชี้ตัวตรวจโดยเฉพาะเจาะจง

และอีกเกือบครึ่งหนึ่งของผู้ที่ตอบแบบสอบถาม กล่าวว่า ผู้นำชาวมุสลิมในสหรัฐไม่ได้ออกมาตำหนิวิพากษ์ชาวมุสลิมที่มีความคิดเห็นสุดโต่งอย่างเพียงพอ

XS
SM
MD
LG