ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ศาลชั้นต้นรัฐบาลสหรัฐฯ พิจารณาคดีฟ้อง DACA เป็นโมฆะ


FILE - In this Nov. 12, 2019, photo, people rally outside the Supreme Court. The Trump administration must accept new applications for the DACA program that protects some young immigrants from deportation, a federal judge ruled Dec. 4, 2020.
FILE - In this Nov. 12, 2019, photo, people rally outside the Supreme Court. The Trump administration must accept new applications for the DACA program that protects some young immigrants from deportation, a federal judge ruled Dec. 4, 2020.

เมื่อวันอังคาร กลุ่มรัฐเก้ารัฐ นำโดยรัฐเท็กซัส ขอให้ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางพิจารณาให้โครงการ DACA (Deferred Action for Childhood Arrivals Program) เป็นโมฆะ โดยโครงการดังกล่าวการคุ้มครองทางกฎหมายแก่คนหนุ่มสาวผู้อพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายพร้อมครอบครัวเมื่อยังเยาว์วัย ไม่ให้ถูกส่งตัวออกนอกประเทศ

ในระหว่างการพิจารณาของศาลกว่าสามชั่วโมง รัฐทั้งเก้าแย้งว่า โครงการ DACA จัดตั้งมาอย่างไม่เป็นไปตามกฎหมายเมื่อปีค.ศ. 2012 ในยุคของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา

คดีนี้อาจส่งผลต่อ “ดรีมเมอร์” (Dreamer) หรือบรรดาคนหนุ่มสาวที่เดินทางเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายพร้อมครอบครัวตั้งแต่ยังเด็ก เกือบ 650,000 คนในสหรัฐฯ โดยโครงการ DACA คุ้มครองไม่ให้พวกเขาถูกเนรเทศ อนุญาตให้พวกเขาทำงานได้ สอบใบขับขี่ได้ และในบางกรณีก็ทำให้พวกเขาเข้าถึงแหล่งทุนเพื่อการศึกษาได้มากขึ้น


โครงการดังกล่าวเผชิญกับสารพัดความท้าทายตั้งแต่เริ่มโครงการ รวมถึงเมื่อครั้งที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พยายามยุติโครงการในปีค.ศ. 2017 อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนมิถุนายน ศาลสูงสหรัฐฯ มีความเห็นว่ารัฐบาลของทรัมป์พยายามยุติโครงการ “โดยพลการอย่างกะทันหัน” และไม่ได้ทำตามขั้นตอนกฎระเบียบที่มี

อย่างไรก็ตาม ในครั้งนั้นศาลสูงไม่ได้ตัดสินถึงความชอบทางกฎหมายของโครงการ DACA ซึ่งเป็นประเด็นที่รัฐเท็กซัสและอีกแปดรัฐยื่นต่อศาล โดยแอนดริว ฮาเน็น ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นรัฐบาลกลาง เป็นผู้รับพิจารณาคดีดังกล่าว

ฮาเน็นถามว่า ควรทำอย่างไรกับผู้ได้รับประโยชน์จากโครงการ DACA หากโครงการดังกล่าวถูกตัดสินว่าผิดกฎหมาย โดยเจเรอมี เฟย์เกนบอม ทนายจากรัฐนิวเจอร์ซีย์ที่ปกป้องโครงการ DACA ตอบว่า การยุติโครงการนี้โดยทันทีจะส่งผลต่อชีวิตของผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ รวมถึงเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ที่ทำงานในช่วงการระบาดของโควิด-19

In this June 18, 2020, photo, Deferred Action for Childhood Arrivals (DACA) students celebrate in front of the Supreme Court after the Supreme Court rejected President Donald Trump's effort to end legal protections for young immigrants in Washington…
In this June 18, 2020, photo, Deferred Action for Childhood Arrivals (DACA) students celebrate in front of the Supreme Court after the Supreme Court rejected President Donald Trump's effort to end legal protections for young immigrants in Washington…

เฟยเกนบอมยังแย้งด้วยว่า ควรระงับการพิจารณาคดีนี้ชั่วคราวจนกว่าว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน รับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม และรัฐบาลของไบเดนได้กำหนดนโยบายของตนเองแล้ว โดยเขาชี้แจงว่า กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ ที่เคยเห็นด้วยกับการยุติโครงการของทรัมป์ จะเปลี่ยนท่าทีภายในเวลาเพียงหนึ่งเดือน

ทั้งนี้ ว่าที่ ปธน. ไบเดน ซึ่งเป็นอดีตรองประธานาธิบดีสมัยโอบามา ยืนยันว่าเขาจะฟื้นฟูโครงการ DACA และผลักดันกฎหมายให้ผู้อพยพราว 11 ล้านคนที่เดินทางเข้าสหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมาย รวมถึงผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ DACA ให้สามารถรับสัญชาติอเมริกันได้

ในขณะเดียวกัน ทอดด์ ดิชเชอร์ ทนายตัวแทนรัฐเท็กซัสและอีกแปดรัฐ ระบุว่าศาลสามารถสั่งให้การยุติโครงการ DACA เป็นอย่างค่อยเป็นค่อยไปได้ รวมถึงการอนุญาตให้ผู้รับประโยชน์จากโครงการ DACA ถือสถานะได้จนสถานะหมดอายุไปเอง

ดิชเชอร์กล่าวว่า โครงการ DACA ผิดขั้นตอนการออกกฎระเบียบ และเปิดทางให้ฝ่ายบริหารเข้ามาทำให้ผู้อพยพมีสถานะถูกกฎหมายมากขึ้น โดยเขาแย้งว่า หากใช้เหตุผลนี้ เหตุใดโครงการ DACA จึงไม่เปิดทางให้บุคคลที่อยู่ในสหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมายทุกคน และไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของฝ่ายบริหารที่จะจัดการเรื่องนี้ได้

นินา เพราเลส หัวหน้าทนายความฝ่ายผู้รับประโยชน์จากโครงการ DACA กล่าวว่า ฝ่ายบริหารมีอำนาจพิจารณาว่าจะบังคับใช่กฎหมายผู้อพยพได้อย่างไร โดยโครงการ DACA ไม่ได้ขัดกับกฎหมายผู้อพยพที่มีอยู่แล้ว ส่วนหนึ่งเพราะโครงการนี้ไม่ได้ให้สถานะผู้อพยพอย่างถูกกฎหมายแก่ผู้เข้าร่วมโครงการ

ทั้งนี้ ผู้พิพากษาฮาเน็นเคยพิพากษาระงับโครงการลักษณะคล้ายกับโครงการ DACA สำหรับผู้ปกครองของผู้อพยพเมื่อปีค.ศ. 2015 และเขาโต้แย้งประเด็นของทนายฝั่งโครงการ DACA ตลอดการพิจารณาคดี

ฮาเน็นยังระบุด้วยว่า ด้วยความที่คดีนี้มีความเป็นการเมืองสูง เขาขอให้ผู้รับฟังการพิจารณาคดีอย่าขุ่นเคืองกับการใช้คำว่า “คนต่างด้าวผิดกฎหมาย” หรือ “ผู้อพยพผิดกฎหมาย” ซึ่งเป็นคำที่รัฐบาลสหรัฐฯ ใช้บ่อยๆ แต่เป็นคำที่กระทบกระเทือนผู้ทำงานเพื่อสิทธิผู้อพยพ

XS
SM
MD
LG