ลิ้งค์เชื่อมต่อ

รายงานการศึกษาวิจัยเรื่องการทำข่าวในอเมริกา ระบุว่ามีการบริโภคข่าวออนไลน์เพิ่มขึ้นแทนการอ่านนสพ.หรือฟังข่าวทางโทรทัศน์


ส่วนหนึ่งของรายงานกล่าวว่า เกือบหนึ่งในสามของประชาชนเลิกบริโภคข่าวจากแหล่งข่าวประจำ อย่างเช่น ข่ายงานโทรทัศน์ต่างๆ รวมทั้งเคเบิลทีวี และหนังสือพิมพ์ ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากการที่แหล่งข่าวเหล่านี้ตัดค่าใช้จ่ายในการหาข่าว ปิดสำนักข่าวในต่างประเทศ และลดจำนวนผู้สื่อข่าวลง ทำให้มีข่าวและการวิเคราะห์ข่าวเชิงลึกน้อยลง

ในขณะที่รายงานข่าวทางโทรทัศน์ มีเรื่องรายงานน้อยลงและสั้นลง หรือหันไปทำการสัมภาษณ์มากขึ้น แทนการทำข่าวสดประจำวันอย่างที่เคยเป็นมา

รายงานของ Pew Research Center กล่าวว่า ในขณะที่มีคนอเมริกันอ่านหนังสือพิมพ์หรือดูข่าวทางโทรทัศน์น้อยลง ปรากฎว่ามีการบริโภคข่าวออนไลน์เพิ่มขึ้น ตัวเลขการบริโภคข่าวออนไลน์ ซึ่งรายงานของ Pew เรียกว่า “ข่าวของเมื่อวันวาน” ซี่งหมายถึงข่าวเก่านั้น เพิ่มขึ้น 7% ในปีที่แล้ว

ซึ่งเป็นข่าวดีสำหรับเว็บไซต์ต่างๆที่ติดอันดับเว็บไซต์ยอดนิยม แต่ข่าวร้ายก็คือ เว็บไซต์เหล่านี้หาโฆษณาไม่ค่อยได้

ขณะเดียวกัน บรรดาหนังสือพิมพ์ที่เคยวิตกกังวลกับยอดขายเพื่อความอยู่รอด เวลานี้มีทางหารายได้ใหม่ โดยเก็บเงินค่าสมาชิกจากผู้อ่านออนไลน์ รายงานของ Pew ที่เพิ่งเผยแพร่ออกมา กล่าวว่า หนังสือพิมพ์ 450 ฉบับจากจำนวนทั้งหมด 1,380 ฉบับในอเมริกา ประกาศแผนจะเก็บ หรือจัดการเก็บเงินค่าสมาชิกออนไลน์กันแล้ว

หนังสือพิมพ์ New York Times ซึ่งเริ่มเก็บค่าสมาชิกออนไลน์เมื่อเกือบสองปีก่อน เปิดเผยว่าทำรายได้จากค่าสมาชิก มากกว่าการขายโฆษณาแล้วในเวลานี้

แนวโน้มอีกอันหนึ่งที่เริ่มเห็นมากขึ้น คือวิธีที่ผู้คนรับฟังข่าวครั้งแรก รายงานของ Pew กล่าวว่า 15% ของผู้บรรลุนิติภาวะในอเมริกา รับข่าวครั้งแรกจาก social network site ถ้าเป็นวัยรุ่น ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 25%

ขณะเดียวกัน การสื่อสารติดต่อผ่านทาง social network และสื่ออื่นๆ นอกไปจากสิ่งพิมพ์และการกระจายเสียงแพร่ภาพ เปิดโอกาสให้บริษัทธุรกิจและบุคคลทั่วไป สื่อสารข้อความถึงประชาชนได้โดยตรง ไม่ต้องรอให้มีนักข่าวสนใจทำข่าว

รายงานเรื่องการทำข่าวของ Pew ให้ความเห็นว่า การสื่อข่าวสารในลักษณะนี้มิได้ผ่านการกลั่นกรองจากแหล่งอิสระ ขาดบริบทและการเปรียบเทียบกับแหล่งข่าวอื่นๆ

กรณีศึกษาที่รายงานของ Pew ยกมาเป็นตัวอย่าง คือการทำข่าวเลือกตั้งในสหรัฐในปีที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่า แม้เมื่อนักข่าวออกไปทำข่าวด้วยตัวเอง การกลั่นกรองลดลง เห็นได้จากการที่มากกว่าครึ่งหนึ่งของความคิดเห็นที่รายงานในข่าวนั้น มาจากตัวผู้สมัคร ผู้ที่ทำงานหาเสียงให้ผู้สมัคร หรือพันธมิตรทางการเมืองของผู้สมัคร ซึ่งใช้ความคิดเห็นนั้นๆในการโจมตีผู้สมัครฝ่ายตรงข้าม

ในขณะที่ราวๆ 25% ของความคิดเห็นในเนื้อข่าวเกี่ยวกับตัวผู้สมัครและประวัติความเป็นมาของผู้สมัครมาจากตัวนักข่าวเอง ซึ่งกลับกันกับการเลือกตั้งในปี ค.ศ. 2000 ที่ครึ่งหนึ่งของความคิดเห็นเกี่ยวกับผู้สมัครมาจากนักข่าว

รายงานของ Pew ระบุไว้ด้วยว่า คนหนุ่มคนสาวอายุต่ำกว่า 30 ปีดูข่าวทางโทรทัศน์น้อยลง โดยลดจาก 42% ในปีค.ศ. 2006 ลงมาอยู่ที่ 28% ในปีที่แล้ว
XS
SM
MD
LG