อิหร่านปฏิเสธคำกล่าวหาของสหรัฐที่ว่าอิหร่านมีส่วนเกี่ยวโยงกับแผนที่จะลอบสังหารทูตซาอุดิ อเรเบียในกรุงวอชิงตัน

ทางการอิหร่านออกมาปฏิเสธอย่างแข็งขัน คำกล่าวหาของสหรัฐที่ว่า อิหร่านมีส่วนเกี่ยวโยงกับแผนที่จะลอบสังหารเอกอัครราชทูตซาอุดิ อเรเบียประจำกรุงวอชิงตัน และในขณะที่ทางการสหรัฐกำลังพิจารณามาตรการที่จะแปลกแยกโดดเดี่ยวอิหร่านออกจากประชาคมนานาชาติต่อไปอีก ความเห็นของผู้คนบางส่วนในอิหร่าน คิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่มีมูลความจริง และเป็นความพยายามของสหรัฐที่จะยั่วยุให้มีการประจันหน้ากับอิหร่านทางทหาร

ตามเอกสารบรรยายข้อกล่าวหาต่อศาลในนครนิวยอร์ค นาย Manssor Arbabsiar ผู้ถือสัญชาติอเมริกัน ที่เกิดในอิหร่าน ติดต่อว่าจ้างสายข่าวของสำนักงานปราบปรามยาเสพติดของสหรัฐในรัฐเทกซัส เพราะเข้าใจผิด คิดว่าบุคคลผู้นั้นเป็นสมาชิกแก๊งค์ยาเสพติดในเมกซิโก ให้วางระเบิดสังหารนาย Adel al-Jubeir เอกอัครราชทูตซาอุดิ อเรเบียประจำกรุงวอชิงตัน ค่าจ้างสำหรับการลอบสังหารนี้ หนึ่งล้านห้าแสนดอลล่าร์ โดยวางมัดจำไว้ล่วงหน้าหนึ่งแสนเหรียญ

นาย Manssor Arbabsiar ถูกทางการสหรัฐจับเมื่อเดือนที่แล้ว และให้ปากคำสารภาพเกี่ยวกับบทบาทของเขาในแผนที่ว่านี้ ข้อกล่าวหาของสหรัฐยังได้ระบุชื่อผู้สมรู้ร่วมคิดไว้ด้วย คือ นาย Gholam Shakuri ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของกองกำลัง Quds Force ในกองพลน้อย Revolutionary Guards ของอิหร่าน

และในที่ประชุมแถลงข่าวที่กรุงวอชิงตัน รัฐมนตรี Eric Holder ของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐกล่าวว่า แผนเรื่องนี้ เริ่มต้น ได้รับการสนับสนุน และกำหนดการโดยตรงจากเจ้าหน้าที่อิหร่านระดับอาวุโสในกองพลน้อย Revolutionary Guards แต่สหรัฐจะยังไม่กล่าวหาในขณะนี้ว่า ผู้นำทางการเมืองของอิหร่านมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย

รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมสหรัฐกล่าวต่อไปด้วยว่า นอกจากบุคคลเหล่านี้จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในบทบาทของตนในแผนดังกล่าวแล้ว สหรัฐยังถือว่าอิหร่านจะต้องรับผิดชอบในการกระทำของตนด้วย

ส่วนรัฐมนตรี Hilary Clinton ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวแต่เพียงว่า สหรัฐจะหารือกับมิตรและประเทศต่างๆทั่วโลกที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน เพื่อหาทางแสดงทีท่าอย่างแข็งขันให้เป็นที่ทราบว่า การกระทำเยี่ยงนี้ ซึ่งเป็นการละเมิดแนวทางปฏิบัติระหว่างประเทศ จะต้องยุติลง

ทางการอิหร่านปฏิเสธข้อกล่าวทั้งหมด โฆษกของประธานาธิบดี Mahmoud Ahmadinejad กล่าวว่า เป็นการสร้างเรื่องเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของผู้คนไปจากปัญหาทางเศรษฐกิจของสหรัฐ

นักวิเคราะห์ Matthew Levitt แห่งสถาบัน Washington Institute for Near Eastern Affairs กล่าวว่า แม้อิหร่านกับซาอุดิ อเรเบีย จะเป็นคู่แข่งกันมานานทั้งในเรื่องอำนาจและอิทธิพลในตะวันออกกลาง แต่แผนสังหารทูต ซึ่งเป็นที่ปรึกษาใกล้ชิดของกษัตริย์ Abdullah แห่งซาอุดิ อเรเบีย ครั้งนี้ ยกระดับการแข่งขันขึ้นไปถึงระดับอันตราย

นักวิเคราะห์ผู้นี้บอกว่า เป็นการเพิ่มเดิมพันกันอย่างแรง และว่า ถ้าเรื่องนี้เป็นจริง ก็ถือว่าแตกต่างอย่างมากจากแนวทางประพฤติปฏิบัติที่แล้วๆมาของอิหร่าน

แต่ชาวอิหร่านบางส่วนคิดว่า ข่าวเรื่องนี้ เป็นความพยายามของสหรัฐที่จะยั่วยุให้เกิดการประจันหน้าทางทหารกับอิหร่าน

นักวิเคราะห์ชาวอิหร่านบางคนบอกว่า ไม่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับอิหร่านดีขึ้น บ้างก็บอกว่า มาตรการลงโทษอิหร่านในเรื่องนิวเคลียร์ล้มเหลว และวอชิงตันหาทางจะทำลายภาพลักษณ์ของอิหร่านในสายตาโลก และบ้างก็บอกว่า เป็นแผนที่อิสราเอลกับซาอุดิ อเรเบียร่วมมือกัน

ทางการซาอุดิ อเรเบียมีถ้อยแถลงออกมาเมื่อวันพุธว่า ต้องการจะนำเรื่องเสนอต่อองค์การสหประชาชาติ และตามข่าวรั่วเกี่ยวกับโทรเลขทางการทูตของสหรัฐ กษัตริย์ Abdullah ของซาอุดิ อเรเบีย ได้กล่าวเตือนสหรัฐให้ตัดหัวงู ซึ่งเป็นการอ้างอิงถึงอิหร่าน ความตึงเครียดระหว่างประเทศทั้งสองนี้เพิ่มขึ้นในช่วงการจลาจลที่แพร่สะพัดไปทั่วตะวันออกกลาง โดยเฉพาะเมื่อซาอุดิ อเรเบีย ส่งกำลังเข้าไปช่วยรัฐบาล Bahrain ปราบปรามผู้ประท้วง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม นิกายชิอะท์ เช่นเดียวกับชาวอิหร่านส่วนใหญ่

แต่ผู้คนในอิหร่านมิได้เป็นพวกเดียวที่มีความสงสัยในคำกล่าวหาของสหรัฐ

นาย Max Fisher บรรณาธิการร่วมของนิตยสาร The Atlantic กล่าวกับผู้สื่อข่าว VOA ผ่านทาง Skype ไว้ว่า มองไม่เห็นว่า อิหร่านจะได้อะไรจากแผนที่ว่านี้ และตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมอิหร่านจึงอยากจะสังหารทูตซาอุดิ อเรเบียประจำสหรัฐ ซึ่งเป็นการขัดต่อผลประโยชน์ของอิหร่านเอง เพราะเรื่องนี้จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับซาอุดิ อเรเบียให้กลับมาสนิทสนมแน่นแฟ้นกันต่อไปอีก