ระหว่างการเยือนฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการในสัปดาห์นี้ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้เข้าพบประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาคร็อง เพื่อหารือประเด็นความร่วมมือต่างๆ ขณะที่ สหรัฐฯ พยายามแก้ไขปัญหาผิดใจกับพันธมิตรประเทศนี้ จากกรณีการร่วมมือกับอังกฤษในการขายเรือดำน้ำให้ออสเตรเลีย
เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ ที่ร่วมเดินทางไปฝรั่งเศส เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวในวันอังคารว่า การประชุมหารือระหว่าง รมต.บลิงเคน และปธน.มาคร็อง ซึ่งเดิมทีไม่ได้มีอยู่ในกำหนดการ ใช้เวลาประมาณ 40 นาที และมีการหยิบยกหลากประเด็นขึ้นมาพูดคุย อันรวมถึง โครงการความร่วมมือระหว่างสองประเทศที่จะมีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการในช่วงปลายเดือนนี้ ที่ผู้นำฝรั่งเศสจะประชุมร่วมกับประธานาธิบดี โจ ไบเดน
ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และฝรั่งเศส ตกอยู่ในภาวะตึงเครียดทันที หลังรัฐบาลปธน.ไบเดน ประกาศเมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมาว่า ได้ลงนามข้อตกลงด้านความมั่นคงฉบับใหม่กับออสเตรเลียและอังกฤษ ซึ่งมีเนื้อหารวมถึงการขายเทคโนโลยีเรือดำน้ำพลังนิวเคลียร์ให้รัฐบาลกรุงแคนเบอร์รา ซึ่งทำให้ออสเตรเลียตัดสินใจยกเลิกคำสั่งซื้อเรือดำน้ำพลังงานดีเซล-ไฟฟ้าจากฝรั่งเศส อันเป็นประเด็นที่รัฐบาลกรุงปารีสโกรธ จนเรียกตัวทูตประจำสหรัฐฯ และออสเตรเลียของตนกลับประเทศทันที
ก่อนหน้าการเข้าพบ ปธน.มาคร็อง นั้น รมต.บลิงเคน ได้ร่วมประชุมกับ ฌอง-อีฟส์ เลอ ดริออง รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส และ เอ็มมานูเอล บง ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติฝรั่งเศส และเป็นประธานการประชุมสภารัฐมนตรีแห่งองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) โดยได้มีการกล่าวปราศรัยเกี่ยวกับปัญหาสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง ปัญหาความไม่เท่าเทียมกันในกลุ่มประชาชนที่ถูกละเลย และภัยคุกคามประชาธิปไตยในระดับโลกด้วย
นอกเหนือจาก รมต.บลิงเคน แล้ว สหรัฐฯ ยังได้ส่ง จอห์น แครี่ ผู้แทนพิเศษประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ แคเธอรีน ไท ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ เข้าร่วมประชุมสภารัฐมนตรี OECD ซึ่งมีกำหนดจัดระหว่างวันที่ 5 และ 6 ตุลาคม และมีประเด็นที่จะถูกหยิบยกขึ้นมาหารือมากมาย ตั้งแต่วิกฤติสภาพภูมิอากาศโลก ไปจนถึง การผลักดันให้นานาประเทศบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ และหลักการเศรษฐกิจการตลาด รวมทั้งประเด็นเกี่ยวกับระบอบประชาธิปไตย หลักนิติธรรม และสิทธิมนุษยชน ด้วย
และภายหลังเสร็จสิ้นการเยือนฝรั่งเศสแล้ว รมต.ต่างประเทศสหรัฐฯ จะเดินทางไปเม็กซิโกระหว่างวันที่ 7 และ 8 ตุลาคม เพื่อเข้าร่วมประชุมการเจรจาด้านความมั่นคงระดับสูงสหรัฐฯ-เม็กซิโก รวมทั้งเข้าพบ มาร์เซโล เอบราร์ด รัฐมนตรีต่างประเทศเม็กซิโกต่อไป