ในรัฐเท็กซัส พื้นดินแห้งแล้ง น้ำในแม่น้ำสายต่างๆเริ่มแห้งขอด ทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์เริ่มกลายเป็นสีน้ำตาลเพราะถูกความแสงแดดและความร้อนเผา รัฐเท็กซัสตกอยู่ในสภาวะอากาศร้อนแห่้งแล้งอย่างนี้มาั้ตั้งแต่ต้นปีพุทธศักราช 2554 รัฐเท็กซัสทางตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกานี้เป็นผู้ผลิตข้าวรายใหญ่อันดับสี่ของประเทศ ปีเตอร์ แม็คกิว เจ้าหน้าที่ฝ่ายส่งเสริมการเกษตรแห่งเท็กซัส กล่าวว่าภาวะฝนแล้งทำให้ผลผลิตข้าวในเท็กซัสลดลงครึ่งหนึ่ง
เขากล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่ารายได้จากภาคการเกษตรกรรมทั้งหมดของเท้กซัสอยู่ที่ราว 290 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ส่วนใหญ่มาจากผลผลิตข้าว และเมื่อผลผลิตข้าวลดลง รายได้ที่จะหมุนเวียนในเศรษฐกิจจะลดลงมหาศาล
เจมส์ เบรดแบรี่ นักวิทยาศาสตร์ด้านสภาวะอากาศแห่งสถาบันทรัพยากรโลก (World Resources Institute) หน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมระดับโลก อธิบายว่า ลานีนญ่า (La Nina)ที่เป็นรูปแบบการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศตามธรรมชาติที่ช่วยทำให้น้ำในมหาสมุทรแปซิฟิกเย็นตัวลงเป็นช่วงๆ เป็นตัวการณ์ทำให้เกิดภาวะฝนแล้งด้วยการนำเอาอากาศที่อุ่นและแห้งไปสู่ทางใต้ของสหรัฐ
เจมส์ เบรดแบรี่ ผู้เชี่ยวชาญชาวสหรัฐกล่าวว่าเวลาเท่านั้นที่จะเป็นตัวชี้ว่าปัญหานี้จะรุนแรงแค่ไหนและจะมีผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างจากสภาวะอากาศที่ร้อนและแห้งแล้งที่แสนยาวนานนี้ เขาคิดว่าอากาศที่ร้อนมากที่สหรัฐกำลังประสบน่าจะเกี่ยวเนื่องกับภาวะโลกร้อนและเป็นตัวเสริมให้ภาวะแห้งแล้งในรัฐทางใต้ของประเทศรุนแรงมากขึ้น
ปีเตอร์ สก็อต หัวหน้าทีมเฝ้าติดตามสภาวะอากาศแห่งศูนย์พยากรณ์อากาศ Hadley Center ที่สถาบันวิจัยสภาวะอากาศโลกทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ เห็นด้วยกับข้อคิดเห็นดังกล่าว เขาเป็นหนึ่งในทีมวิจัยของสมาคมด้านการพยากรณ์อากาศแห่งอเมริกา (American Meteorological Society)ที่กำลังศึกษาความเกี่ยวข้องของภาวะโลกร้อนกับภาวะแห้งแล้งในเท็กซัสและภัยทางธรรมชาติที่รุนแรงต่างๆ
เขากล่าวว่าทีมวิจัยพบหลักฐานที่ชี้ถึงอิทธิพลของมนุษย์ต่อภาวะอากาศร้อนจัดในเท็กซัสและสภาพอากาศที่อุ่นผิดปกติในสหราชอณาจักรในปีพุทธศักราช 2554 สก็อต นักวิจัยกล่าวว่า แม้ว่าเหตุการณ์สภาวะอากาศผันผผวนรุนแรงไม่ได้เกี่ยวข้องกับภาวะโลกร้อนทั้งหมก แต่เขาและทีมงานเืชื่อว่้า เมื่อโลกเราอุ่นขึ้น เราจะประสบกับภัยธรรมชาติจากภาวะอากาศผันผวนกันบ่อยขึ้น
สก็อต นักวิจัย บอกว่า เขาหวังว่าคนทั่วไปจะเข้าใจผลกระทบของภาวะโลกร้อนต่อสภาวะอากาศแห้งแล้งที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้และพยายามช่วยกันลดการปล่อยแก๊สเรือนกระจกเพื่อช่วยทุเลาความรุนแรงของปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
เขากล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่ารายได้จากภาคการเกษตรกรรมทั้งหมดของเท้กซัสอยู่ที่ราว 290 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ส่วนใหญ่มาจากผลผลิตข้าว และเมื่อผลผลิตข้าวลดลง รายได้ที่จะหมุนเวียนในเศรษฐกิจจะลดลงมหาศาล
เจมส์ เบรดแบรี่ นักวิทยาศาสตร์ด้านสภาวะอากาศแห่งสถาบันทรัพยากรโลก (World Resources Institute) หน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมระดับโลก อธิบายว่า ลานีนญ่า (La Nina)ที่เป็นรูปแบบการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศตามธรรมชาติที่ช่วยทำให้น้ำในมหาสมุทรแปซิฟิกเย็นตัวลงเป็นช่วงๆ เป็นตัวการณ์ทำให้เกิดภาวะฝนแล้งด้วยการนำเอาอากาศที่อุ่นและแห้งไปสู่ทางใต้ของสหรัฐ
เจมส์ เบรดแบรี่ ผู้เชี่ยวชาญชาวสหรัฐกล่าวว่าเวลาเท่านั้นที่จะเป็นตัวชี้ว่าปัญหานี้จะรุนแรงแค่ไหนและจะมีผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างจากสภาวะอากาศที่ร้อนและแห้งแล้งที่แสนยาวนานนี้ เขาคิดว่าอากาศที่ร้อนมากที่สหรัฐกำลังประสบน่าจะเกี่ยวเนื่องกับภาวะโลกร้อนและเป็นตัวเสริมให้ภาวะแห้งแล้งในรัฐทางใต้ของประเทศรุนแรงมากขึ้น
ปีเตอร์ สก็อต หัวหน้าทีมเฝ้าติดตามสภาวะอากาศแห่งศูนย์พยากรณ์อากาศ Hadley Center ที่สถาบันวิจัยสภาวะอากาศโลกทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ เห็นด้วยกับข้อคิดเห็นดังกล่าว เขาเป็นหนึ่งในทีมวิจัยของสมาคมด้านการพยากรณ์อากาศแห่งอเมริกา (American Meteorological Society)ที่กำลังศึกษาความเกี่ยวข้องของภาวะโลกร้อนกับภาวะแห้งแล้งในเท็กซัสและภัยทางธรรมชาติที่รุนแรงต่างๆ
เขากล่าวว่าทีมวิจัยพบหลักฐานที่ชี้ถึงอิทธิพลของมนุษย์ต่อภาวะอากาศร้อนจัดในเท็กซัสและสภาพอากาศที่อุ่นผิดปกติในสหราชอณาจักรในปีพุทธศักราช 2554 สก็อต นักวิจัยกล่าวว่า แม้ว่าเหตุการณ์สภาวะอากาศผันผผวนรุนแรงไม่ได้เกี่ยวข้องกับภาวะโลกร้อนทั้งหมก แต่เขาและทีมงานเืชื่อว่้า เมื่อโลกเราอุ่นขึ้น เราจะประสบกับภัยธรรมชาติจากภาวะอากาศผันผวนกันบ่อยขึ้น
สก็อต นักวิจัย บอกว่า เขาหวังว่าคนทั่วไปจะเข้าใจผลกระทบของภาวะโลกร้อนต่อสภาวะอากาศแห้งแล้งที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้และพยายามช่วยกันลดการปล่อยแก๊สเรือนกระจกเพื่อช่วยทุเลาความรุนแรงของปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
