สภาคองเกรสผ่านร่างกฎหมายใหม่ที่ตั้งเงื่อนไขให้ธุรกิจสัญชาติจีนที่มีแผนจะนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ต้องปฏิบัติตามมาตรการการทำบัญชีของสหรัฐฯ เสียก่อน
เมื่อวันพุธตามเวลาในสหรัฐฯ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีมติเป็นเอกฉันท์ผ่านร่างกฎหมายฉบับใหม่ซึ่งมีชื่อว่า The Holding Foreign Companies Accountable Act และวุฒิสภามีมติรับรองไปแล้วเมื่อต้นปีผ่านมา โดยขั้นตอนหลังจากนี้คือการส่งเข้าทำเนียบขาว เพื่อให้ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามเพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป
เนื้อหาของกฎหมายนี้ สั่งห้ามบริษัทต่างชาติไม่ให้นำหลักทรัพย์ของตนเข้าซื้อขายในตลาดสหรัฐฯ หากไม่สามารถปฏิบัติตามมาตรฐานและกฎเกณฑ์ของคณะกรรมการตรวจสอบบัญชีสาธารณะสหรัฐฯ หรือ U.S. Public Accounting Oversight Board และผ่านการตรวจสอบเป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน
แม้ว่ากฎหมายนี้จะมีเนื้อหาครอบคลุมบริษัทต่างชาติทั้งหมด สภาคองเกรสสหรัฐฯ มุ่งเป้าบังคับใช้กฎหมายใหม่กับบริษัทสัญชาติจีน เช่น บริษัท อาลีบาบา ของมหาเศรษฐี แจ็ค หม่า บริษัทเทคโนโลยี Pinduoduo Inc. และ บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของจีน อย่าง PetroChina เป็นต้น
เท่าที่ผ่านมา สมาชิกสภาคองเกรสจากทั้งพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครต มักแสดงความสนับสนุนมาตรการใหม่ๆ ที่ยกระดับจุดยืนของสหรัฐฯ ต่อจีน ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับนโยบายชนจีนของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์
ส.ว. คริส แวน ฮอลเลน จากพรรคเดโมแครต ผู้ร่วมร่างกฎหมายใหม่นี้กับ ส.ว. จอห์น เคนเนดี้ จากพรรครีพับลิกัน ระบุในแถลงการณ์ว่า นักลงทุกชาวอเมริกัน “ถูกโกงเงินไปมากมายหลังลงทุนในบริษัทจีนต่างๆ ที่ดูเหมือนจะทำทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ไม่ได้ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานเดียวกับบริษัทอื่นๆ ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์”
และด้วยการบังคับบริษัทจดทะเบียนทั้งหลายเปิดเผยด้วยว่า ตนมีสัดส่วนการถือครองโดยรัฐบาลต่างประเทศหรือไม่ รวมทั้งการเปิดโอกาสให้สหรัฐฯ สามารถทำการตรวจสอบต่างๆ มากขึ้น หลายฝ่ายเชื่อว่า กฎหมายนี้จะทำให้แผนการของบริษัทจีนหลายแห่งที่ต้องการนำหุ้นมาจดทะเบียนในสหรัฐฯ ต้องสะดุดไปโดยปริยาย
ทั้งนี้ ก่อนที่สภาล่างสหรัฐฯ จะลงมติรับรองร่างกฎหมายใหม่นี้ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน หัว ชุนยิง กล่าวว่า กฎหมายนี้เป็นนโยบายการเมืองของสหรัฐฯ ที่มุ่งเป้ากีดกันและกดขี่บริษัทสัญชาติจีน